| ที่มา | นสพ.มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจและพลาดไม่ได้อย่างยิ่งประจำปีนี้ต้องยกให้นิทรรศการ “ของขวัญแห่งมิตรภาพ : ราชอาณาจักรไทยและสหรัฐอเมริกา พ.ศ.2361-2561” ซึ่งจะจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม – 30 มิถุนายน 2561 เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบ 200 ปีแห่งความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐ
ฝ่ายสหรัฐได้รวบรวมวัตถุและสิ่งของมากมายที่ไม่เคยนำไปจัดแสดงที่ใดมาก่อนจากสถาบันชั้นนำต่างๆ ในสหรัฐ อาทิ สถาบันสมิธโซเนียน องค์การบริหารจดหมายเหตุและบันทึกแห่งชาติ รวมถึงหอสมุดของประธานาธิบดีสหรัฐหลายแห่งทั่วสหรัฐ ตลอดจนของขวัญพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาจัดแสดง
ขณะที่ไทยก็ได้นำเอาเอกสารสำคัญและของขวัญต่างๆ ที่เก็บไว้ในสถาบันในไทย อาทิ กรมศิลปากร พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ หอสมุดแห่งชาติ และสถาบันพระปกเกล้า มาร่วมจัดแสดงด้วยเช่นกัน
ไทยไม่ได้เป็นเพียงชาติแรกในเอเชียที่ได้มีการทำสนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์กับสหรัฐ ซึ่งลงนามไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2376 หรือ 185 ปีก่อนเท่านั้น แต่ย้อนไปเมื่อปีพ.ศ.2361 พระยาสุริยวงศ์มนตรี(ดิศ บุนนาค) ได้มีหนังสือไปยังประธานาธิบดีเจมส์ มอนโร ซึ่งถือเป็นจดหมายติดต่อกันเป็นครั้้งแรกระหว่างไทย-สหรัฐ นับจากนั้นมาไทย-สหรัฐ ก็มีการสืบสานความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างต่อเนื่องยาวนานนับได้ถึง 200 ปี
นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวว่า นิทรรศการของขวัญแห่งมิตรภาพแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งและยืนยาวระหว่างประชาชนชาวอเมริกันและประชาชนชาวไทย ประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในเพื่อนคนแรกๆ ของสหรัฐในยุคต้นๆ จึงอยากจะเชิญชวนทุกคนให้ไปเยี่ยมชมนิทรรศการเพื่อรับทราบด้วยตนเองว่าของขวัญเหล่านี้ช่วยยึดเหนี่ยวมิตรภาพนี้ได้อย่างไรตลอดสิบชั่วอายุคน
ด้านนายดำรง ใคร่ครวญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การจัดนิทรรศการดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง 200 ปีนับตั้งแต่มีการติดต่อครั้งแรกระหว่างสองประเทศ เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์และความเป็นพันธมิตรที่ยาวนาน อันถือเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญของการดำเนินนโยบายต่างประเทศของเรามาอย่างยาวนาน นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยได้มีความริเริ่มอันเยี่ยมยอดในการฟื้นคืนชีวิตให้กับประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศผ่านการจัดแสดงนิทรรศการที่หาชมได้ยากยิ่งนี้
“ไม่มีหนทางใดที่จะรำลึกถึงอดีตได้ดีไปกว่าการมองผลงานศิลปะ และชื่นชมประวัติศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังผลงานดังกล่าว หวังว่านิทรรศการนี้จะช่วยให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจถึงความปรารถนาดีและมิตรภาพซึ่งดำรงคงอยู่มาอย่างยาวนานระหว่างราชวงศ์ไทยกับประธานาธิบดีสหรัฐหลายท่าน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันแข็งแกร่ง และหวังว่านิทรรศการนี้จะช่วยให้ประชาชนทั้งสองประเทศทะนุถนอมมิตรภาพและเพิ่มพูนความสัมพันธ์เพื่อให้ทั้งสองประเทศและประชาชนผูกพันกันต่อไปจนถึงศตวรรษหน้า”นายดำรงกล่าว
“Great and Good Friend” คือคำขึ้นต้นจดหมายที่ประธานาธิบดีสหรัฐเขียนกราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรสยาม และถ้อยคำดังกล่าวยังคงสะท้อนให้เห็นผ่านความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน
