นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยูแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฉบับใหม่กับธนาคารออมสินว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) รายงานความคืบหน้าการจัดทำร่างเอ็มโอยูฉบับดังกล่าวให้ตนรับทราบแล้ว เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุป ทาง สกสค.รายงานว่ายังมีข้อท้วงติง หลายส่วนที่ยังตกลงกันไม่ได้ ดังนั้นตนจึงขอให้ไปตกลงกันให้เรียบร้อยตนจะยังไม่ลงไปยุ่ง
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารออมสินไม่พิจารณาข้อเสนอของทาง สกสค.เลยแม้แต่ข้อเดียว โดยเฉพาะข้อเสนอของสกสค.ที่ขอให้ธนาคารออมสินลดดอกเบี้ย 1% ให้กับครูทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มีวินัยทางการเงินที่ดีเท่านั้น เพราะตอนนี้ดอกเบี้ยที่ครูสูงถึงกว่า 6% ส่วนครูที่มีวินัยทางการเงินที่ดี ถ้าธนาคารออมสินจะนำเงิน 1% ซึ่งเคยส่งคืนเข้ากองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) คืนให้กับครู ขอให้คืนให้ครูเป็นรายเดือน ไม่ใช่คืนให้กับครูที่มีวินัยทางการเงินดีครั้งเดียวใน 1 ปีหรือ 12 งวด เพราะถ้าใครขาดชำระไปงวดใดงวดหนึ่งก็จะไม่ได้รับเงินในส่วนนี้เลย ทำให้ครูเสียเปรียบ ทั้งนี้ในการคืนเงินส่วนนี้ให้กับครูทาง สกสค.เสนอไป 2 แนวทาง คือ ให้คืนเงิน 1% ให้กับครูที่ชำระหนี้ตรงตามกำหนดเป็นรายเดือน หรือคืนให้ตามสัดส่วน เช่นสมมติว่าธนาคารออมสินจะคืนเงินให้กับครูที่มีวินัยทางการเงินดี เดือนละ 1 บาท ถ้าชำระหนี้ตรงเวลา 12 เดือนก็ให้ได้คืนเต็มจำนวน 12 บาท ส่วนคนที่ชำระหนี้ตรง 11 งวด อาจจะคืนให้ 10 บาท ชำระหนี้ตรง 10 งวด อาจจะคืนให้ 8 บาท เป็นต้น ลดหลั่นกันไป ไม่ใช่ว่าถ้าชำระไม่ตรงงวดเดียวจะตัดไม่ให้เลย ตรงนี้ถือว่าครูเสียเปรียบ
“ทางธนาคารออมสินไม่พิจารณาข้อเสนอของ สกสค.เลยแม้แต่เรื่องเดียว ซึ่งทาง สกสค.เองเห็นว่าครูส่วนใหญ่อยากให้ลดดอกเบี้ยทั้งระบบ แม้ที่ผ่านมาทางธนาคารออมสินจะมีข้อเสนอให้พักชำระหนี้ 3 ปี แต่ระหว่างที่พักชำระหนี้ ดอกเบี้ยยังคงเดินอยู่ และบางโครงการดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น เช่น บางโครงการครูต้องชำระหนี้ให้ธนาคารออมสินเดือนละ 7,500 บาท หักเป็นเงินต้นเพียง 700-800 บาทต่อเดือนเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นดอกเบี้ยถึง 6,700-7,000 บาท ถ้าลดดอกเบี้ยให้ทั้งระบบ 1% จะลดเงินต้นลงได้ถึงเดือนละประมาณ 1,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ผมได้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.รับทราบแล้ว โดยทาง นพ.ธีระเกียรติขอให้พิจารณาในระดับล่างให้เรียบร้อยก่อน เสนอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณาอีกครั้ง” นายพินิจศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเจรจาแล้วทางธนาคารออมสินยังไม่รับข้อเสนอของ สกสค. นายพินิจศักดิ์กล่าวว่า ทาง สกสค.เอง มีแผนสำรองไว้ในใจแล้วแต่ยังไม่สามารถบอกได้ บอกได้เพียงเป็นแนวทางที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ตอนนี้ขอเจราจากกับทางธนาคารออมสินให้สิ้นสุดก่อน ส่วนความคืบหน้าในการแก้ปัญหาวงเงินการประกันชีวิตผู้กู้นั้น เบื้องต้นอนาคตจะให้มีการเปิดประมูลบริษัทที่เข้ามารับทำประกันชีวิตในโครงการที่เกียวข้องกับครูอย่างเปิดเผย และต้องได้เบี้ยประกันที่ถูกลงกว่าเดิม โดยต้องเป็นเบี้ยประกันที่ทั้งครูและบริษัทประกันสามารถรับได้ รวมถึงการประกันชีวิตจะต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจไม่บังคับเหมือนที่ผ่านมา
