สืบเนื่องกรณีกลุ่มบุคคลแพร่ภาพตนและเพื่อนปีนป่ายโบราณสถานแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กระทั่งเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ถึงความไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคำบรรยายภาพที่มีลักษณะคล้ายกับว่าทราบถึงข้อห้าม แต่ยังฝ่าฝืน ไม่เพียงเท่านั้นยังติดแฮชแท็ก “คนบาป2018”
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ นางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินความแจ้งความในกรณีที่เกิดเหตุ ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้ประชาสัมพันธ์ระเบียบการเข้าชมโบราณสถานผ่านเฟซบุ๊กเพจ “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” โดยระบุว่าหากฝ่าฝืน จะต้องได้รับการตักเตือนและอาจได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ การกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา 34 พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ที่วางกำหนดการปฏิบัติตัวเมื่อเข้าชมโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว (ข้อ 2(6) ) กระทำการอันน่ารังเกียจ หรือเป็นที่เสื่อมเสียต่อศีลธรรมอันดีฯ ในเขตโบราณสถาน อันมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
