เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการคุรุสภาเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ใช้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คำสั่งที่ 17/2560 สรรหาเลขาธิการคุรุสภาตัวจริง ทั้งนี้ ในข้อที่ 2 ของคำสั่งดังกล่าวระบุว่า “ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการ ศธ.อาจให้คณะกรรมการคุรุสภาและคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ตามคำสั่งนี้ แล้วแต่กรณีดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งเลขาธิการคุรุสภา เลขาธิการ สกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา การสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กำหนด” เบื้องต้นการสรรหาครั้งนี้จะมีความเป็นสากล โดยกำหนดไว้ในใบสมัคร ว่าจะต้องมีผู้เขียนแนะนำและรับรอง จากนั้นคณะกรรมการกลั่นกรองจะคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไขที่กำหนดไม่เกิน 10 ราย เสนอให้คณะกรรมการชุดที่ 2 ผู้สัมภาษณ์และคัดเลือกผู้เหมาะสมให้เหลือ 2 รายพร้อมเหตุผลเสนอให้คณะกรรมการคุรุสภา ที่มีรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธานคัดเลือก โดยจะเริ่มประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2561 คาดว่าจะได้เลขาธิการคุรุสภาตัวจริงภายในเดือนพฤษภาคมนี้
นพ.ธีระเกียรติกล่าวต่อว่า การรับสมัครครั้งนี้จะเปิดกว้าง หากใครมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด สามารถมาสมัครได้ นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา ก็มีสิทธิสมัคร เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสรรหาครั้งนี้เลย ตนกับทีมงานจะเป็นคนทำหลักเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่เสร็จ 100% อยู่ระหว่างดูรายละเอียด แต่คุณสมบัติผู้สมัครจะไม่มีการล็อกจนมีผู้สมัครได้ไม่กี่คน
“เป้าหมายการคัดเลือกเลขาธิการคุรุสภาครั้งนี้ ต้องการคัดเลือกคนที่แวดวงการศึกษาและครูให้ความเคารพนับถือ ดังนั้น คณะกรรมการทั้งสองชุด จะต้องเป็นผู้ใหญ่ที่คนวงการครูให้ความเคารพนับถือ ส่วนสำคัญคือ คณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งนอกจากดูประวัติแล้ว จะต้องดูผลงานที่ผ่านมารวมถึงให้คะแนนผู้รับรองด้วย ส่วนจะมีกรรมการชุดละกี่คนนั้น ยังไม่มีข้อสรุป ขอหารือทีมงานก่อน อย่างไรก็ตาม โดยกฎหมายผมไม่ต้องใช้คณะกรรมการคุรุสภาก็ได้ เพราะคำสั่ง คสช.ที่ 17/2560 ข้อที่ 2 กำหนดชัดเจนว่าให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการ ศธ. สามารถกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการคัดเลือกได้ แต่ผมให้เกียรติกรรมการคุรุสภา จึงอยากให้เข้ามามีส่วนในการคัดเลือกด้วย ยืนยันว่า การสรรหาครั้งนี้จะโปร่งใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมทำตามสัญญาว่าจะคืนอำนาจให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างแท้จริง” นพ.ธีระเกียรติกล่าว
รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวต่อว่า ส่วนการสรรหาเลขาธิการ สกสค.และผู้อำนวยการองค์การค้าฯตัวจริงนั้น ทั้งสองหน่วยงานถือว่าอยู่ระหว่างการสะสางปัญหาต่างๆ เพราะยังมีหลายเรื่องที่ไม่เสถียร การไปเปลี่ยนกลางคันจะทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง ขณะที่คุรุสภาถือว่าเสถียรแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ควรจะขับเคลื่อนด้วยคนที่ได้รับความเคารพนับถือไม่ใช่ข้าราชการ ดังนั้น ในส่วนของ สกสค.และองค์การค้าฯ ตนอยากให้รอก่อน แต่อย่างไรก็ต้องดำเนินการ ไม่ช้าก็เร็ว เพราะนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.และผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายนนี้แล้ว ส่วนจะทาบทามนายพินิจศักดิ์มาทำงานต่อหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ตอนนี้อยากให้ช่วยแก้ปัญหาก่อนไม่อยากกดดัน
