สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ว่า ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ส่งอุปกรณ์ที่ใช้ในขีปนาวุธ และอาวุธเคมี ให้แก่ประเทศซีเรีย พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญด้านมิสไซล์ ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อมติคว่ำบาตรของยูเอ็น และยังจัดระบบขีปนาวุธไปยังประเทศพม่าด้วย
ทั้งนี้ คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่คอยตรวจสอบการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบการเคลื่อนย้ายขีปนาวุธต้องห้าม , อาวุธ และสินค้าต่างๆ ของรัฐบาลเปียงยาง พบว่า มีการขนส่งไปยังประเทศซีเรียที่ไม่มีการรายงานมากถึงกว่า 40 ครั้ง ในช่วงปี ค.ศ.2012 ถึง 2017
นอกจากนี้ ยังมีชาติสมาชิกที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อประเทศ ได้รายงานหลักฐานเกี่ยวกับประเทศพม่า เป็นใบเสร็จรับเงินค่าอาวุธต่างๆจากเกาหลีเหนือ รวมทั้งเครื่องยิงจรวด รวมทั้งขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ และระบบขีปนาวุธ
ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพี ได้รับรายละเอียดเป็นรายงานกว่า 200 หน้า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ รวมถึงผลสอบของคณะกรรมการที่พบความเชื่อมโยงเกี่ยวกับอาวุธเคมีในประเทศซีเรีย ขณะที่สหรัฐและชาติตะวันตกต่างกล่าวหาว่าซีเรียใช้อาวุธเคมีในการโจมตีพื้นที่ที่กลุ่มกบฏควบคุมอยู่ รวมทั้งเหตุโจมตีเขตกูตะวันออก ชานกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย แต่รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ปฏิเสธข้อหาดังกล่าว
วันเดียวกัน นิวยอร์กไทม์สอ้างรายงานของผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ระบุว่า เกาหลีเหนือเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตอาวุธเคมีให้แก่ซีเรีย อาทิ แผ่นกระเบื้องต้านความร้อนสูงและต้านกรด วาล์วต้านสนิม และ เครื่องวัดอุณหภูมิ ซึ่งในส่วนของแผ่นกระเบื้องถูกนำไปใช้ในการสร้างโรงงานผลิตอาวุธเคมีของซีเรีย นอกจากนี้ยังมีการพบเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านมิสไซล์ของเกาหลีเหนืออยู่ในบริเวณโรงผลิตอาวุธของซีเรียด้วย