วันที่ 2 มีนาคม 2561 ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก นายแพทย์ธวัชชัย เศรษฐศุภพนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้กล่าวถึงสถานการณ์โรควัณโรคในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างปี 2555-2560 มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อวัณโรคไปรักษากับทางโรงพยาบาลแม่สอดจำนวน 500 ราย พบเป็นบุคคลต่างชาติคือแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมามากกว่าคนไทย และในปี พ.ศ.2559 พบว่าคนไทยมากกว่าต่างชาติ ซึ่งส่วนมากเป็นชาวเมียนมา ส่วนการรักษาพบว่าอัตราการหายจากโรควัณโรคมีประมาณร้อยละ 80 แต่คนไทยมักเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ส่วนปัญหาของคนต่างด้าวคือการขาดยา เนื่องจากไม่ยอมกินยา เพราะเมื่อกินไปแล้วรู้สึกทรมานจึงไม่ยอมกิน ต่อมาในปี พ.ศ.2561 พบผู้ป่วยติดเชื้อวัณโรคอีก 123 ราย แยกเป็นคนไทย 71 ราย เป็นชาวเมียนมา 52 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยดื้อยา 2 ราย นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อวัณโรค เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สอด อีก 3 ราย จากปีที่ผ่านมาพบ 12 ราย
นายแพทย์ธวัชชัยกล่าวด้วยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลแม่สอดได้เริ่มกำหนดกลยุทธ์ในการรักษาเพื่อลดปัญหาการขาดยา กำหนดให้ผู้ป่วยมากินยาต่อหน้าแพทย์ที่รักษาหรือพยาบาล, จัดเจ้าหน้าที่นำยาไปบริการถึงที่บ้าน และให้กินยาต่อหน้า แต่ก็มีอีกปัญหาหนึ่งคือปัญหาการตรวจสุขภาพของแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา หรือแรงงานที่ผ่านระบบเอ็มโอยู ถือหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตแรงงานเข้ามา โดยไม่ผ่านการตรวจสุขภาพโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่่ ทำให้ผู้ป่วยวัณโรคไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษาอย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาถือหนังสือเดินทางเข้ามา ก็สามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ชายแดนเข้าไปยังจังหวัดชั้นในของประเทศไทยได้ทันที แม้ว่ามีการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลในต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพฯแล้วก็ตาม เมื่อตรวจพบโรควัณโรคหรือโรคอื่นๆ ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีการรักษาต่อเนื่องหรือไม่อย่างไร จึงมีข้อเสนอแนะ อยากให้แรงงานที่เข้ามาในระบบเอ็มโอยูในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ควรที่จะตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลในพื้นที่และได้รับการรักษาให้หายขาดก่อนที่จะเดินทางเข้าไปทำงานพื้นที่ชั้นในจะดีที่สุด และเมื่อไปทำงานในพื้นที่ชั้นในแล้ว สามารถตรวจสุขภาพในพื้นที่ชั้นในได้ตลอด
