จีนลดการระบายน้ำทำน้ำโขงแห้งกระทบเรือเดินสินค้า

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสภาพอากาศที่เริ่มแห้งลงในระยะนี้ทำให้เกิดฝนทิ้งช่วงทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนทำให้ทางการจีนลดปริมาณการระบายน้ำจากเขื่อนจิ่งหงลงจากที่เคยปล่อยสูงกว่า 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือเพียง 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงได้ลดระดับลงกว่าช่วงที่ผ่านมาส่งผลทำให้เกิดสันดอนทรายและโขดหินโผล่ขึ้นหลายจุด โดยเฉพาะช่วงมองป่าแหลว เขตชายแดนระหว่างประเทศลาวกับพม่าก่อนถึงชายแดนจีน ซึ่งเป็นจุดที่มีความกว้างและตื้นที่สุด ส่งผลกระทบทำให้เรือบรรทุกสินค้าและเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำต้องเกยตื้นติดสันดอนทราย ทำให้ต้องช่วยกันชักลากเพื่อให้ผ่านไปได้

โดย น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงได้เริ่มลดลงมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว เนื่องทางการมีการควบคุมการระบายน้ำให้น้อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินเรือขนาดใหญ่ ส่วนเรือขนาดเล็กและเรือท่องเที่ยวที่กินน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร ยังไม่มีผลกระทบ อย่างไรก็ตามล่าสุดได้มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำเริ่มเพิ่มระดับขึ้น คาดว่าอีกประมาณ 2-3 วันเรือจะสามารถเดินเรือได้สะดวกขึ้น


ด้านนายสุรนาถ ศิริโชติ ผู้อำนวยการสำนักเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย กล่าวว่า ปัจจุบันแม่น้ำโขงมีระดับน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 2.02 ถึง 2.40 เมตร โดยเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาวัดได้ 2.38 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่น้อย หากเทียบในอดีตก่อนมีการสร้างเขื่อนที่ระดับน้ำจะอยู่ประมาณ 6-8 เมตร ซึ่งปัจจัยทำให้น้ำโขงลดน้อยลงส่วนหนึ่งมาจากการควบคุมน้ำของทางการจีนและอีกส่วนมาจากสภาพภัยแล้งที่ฝนไม่ตกทั้งต้นเขื่อนและท้ายเขื่อนทำให้น้ำสาขาที่จะไหลลงสู่น้ำโขงน้ำมีน้อยหรือแห้งขอดทำให้ปริมาณน้ำโขงลดน้อยลงไปด้วย แต่การสร้างเขื่อนก็มีผลดีที่น้ำแม้จะไม่สูงมากนักแต่ก็ไม่แห้งมากนัก ทำให้มีน้ำใช้ตลอดปี แต่สิ่งที่อยากให้ดำเนินการคือการแจ้งปริมาณการปล่อยหรือกักน้ำให้ทางประเทศใต้เขื่อนทราบเพื่อวางแนวทางการในจัดการใช้น้ำโขงอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้กระทบต่อทั้งการเดินเรือหรือภาคการเกษตรและการอุปโภคบริโภค

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image