เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า ตามที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) จัดทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต ประจำปีการศึกษา 2560 ซึ่งสทศ.จัดให้มีการทดสอบโอเน็ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 3-4 มีนาคม ปรากฏว่า ในการสอบวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมมีนักเรียน โพสต์ข้อความ ข้อร้องให้สทศ. พิจารณาให้ข้อสอบวิชาสังคม ที่ถามว่า “บุคคลใดห้ามบวชเด็ดขาด” โดยขอให้สทศ.ให้คะแนนฟรีกับข้อนี้ โดยคำตอบของข้อสอบข้อดังกล่าว คือ เคยบวชเป็นพระ แต่เสพเมถุนถูกจับสึก (ปาราชิก) ยากจนบริขารไม่ครบ เป็นเอดส์ ฆ่าคนหนีคดีมาบวช โดยผู้โพสต์ข้อความระบุด้วยว่า “ในความคิดผม คิดว่า ทุกข้อถูกหมด ขณะเดียวกันยังมีมีผู้ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์หนึ่ง ว่า “สอบโอเนต เอามือถือเข้าได้ด้วยเหรอ ทำไมคนนี้ถ่ายข้อสอบออกมาได้? #ONET” โดยระบุว่าไปเจอมาจากทวิตเตอร์ เป็นภาพข้อสอบที่ส่งกันในกรุ๊ปไลน์ ซึ่งต่อมามีการระบุว่าเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ โพสต์ภายหลังสอบเสร็จในเวลา 16.30 น. ซึ่งมีนักเรียนจำนวนมากแชร์กระทู้ดังกล่าวจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามว่าระเบียบไม่ให้นำมือถือเข้าห้องสอบ ทำไมจึงนำเข้าไปได้ และเรียกร้อง ให้ สทศ.ดำเนินการตรวจสอบ และชี้แจง นั้น ขณะนี้ สทศ.ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว กรณีข้อสอบวิชาสังคมที่เด็กร้องมาว่า สทศ.ต้องให้คะแนนฟรี เพราะข้อสอบน่าจะถูกทุกข้อนั้น สทศ.จะต้องตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะโดยปกติแล้วเมื่อสอบเสร็จจะมีคณะกรรมการที่มาดูเฉลยข้อสอบอีกครั้งอยู่แล้ว ขณะที่ทางสทศ.จะดูข้อคิดเห็นจากเด็ก ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งดูดายกับเรื่องนี้ และถ้าข้อสอบมีปัญหาจริงต้องให้ประโยชน์เด็กแน่นอน
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีมีผู้ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์หนึ่ง ว่า “สอบโอเนต เอามือถือเข้าได้ด้วยเหรอ ทำไมคนนี้ถ่ายข้อสอบออกมาได้? #ONET” นั้นคณะทำงานที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนก็กำลังช่วยกันตรวจสอบว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไรพร้อมทั้งได้แจ้งไปยังศูนย์สอบ 18 ศูนย์ทั่วประเทศช่วยตรวจสอบและหาเบาะแสว่าคนที่นำข้อมูลนี้มาโพสต์เป็นใคร ซึ่งเท่าที่ดูในเบื้องต้นในช่วงค่ำของวันที่ 3 มีนาคม พบว่า ได้มีการนำภาพข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษที่มีการสอบในช่วงบ่ายของวันดังกล่าว ไปโพสต์ในกลุ่มไลน์ปิด ที่ใช้ชื่อว่าKMITL ซึ่งในกลุ่มไลน์ดังกล่าวก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นว่าการนำโทรศัพท์เข้าไปในห้องสอบได้อย่างไร การทำเช่นนี้เป็นการทำผิดระเบียบการสอบ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่การที่เด็กแสดงออกเช่นนี้แสดงว่าเด็กส่วนใหญ่รู้ระเบียบการเข้าห้องสอบดี กรณีที่เกิดขึ้นยังไม่รู้ว่าใครทำ ทำไปเพื่ออะไร และไม่รู้หรือว่าห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ ซึ่งสทศ.ต้องตรวจสอบ และหากใครมีเบาะแสก็ให้แจ้งมาที่สทศ.ได้
“การนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบถือว่าผิดระเบียบการสอบแน่นอน ส่วนจะลงโทษอย่างไรก็ต้องขอดูในรายละเอียดก่อนว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามกลุ่มปิดดังกล่าวเบื้องต้นมีสมาชิก 700 กว่าคน เมื่อมีการโพสต์ภาพที่ผิดระเบียบสทศ.ก็พบว่า สมาชิกทยอยออกจากลุ่มดังกล่าว เพราะรู้ว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้น ทีมงาน สทศ.ก็กำลังติดตามตัวสมาชิกในห้องนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้โพสต์บ้างแล้ว เช่น รูปหน้าของผู้โพสต์ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวก็ถือเป็นความผิดของบุคคล ไม่จำเป็นต้องสอบใหม่อย่างที่มีนักเรียนกังวลกัน ส่วนบทลงโทษจะเป็นอย่างไรนั้น ได้ให้ทีมงานรีบตามตัวผู้โพสต์ให้พบโดยเร็ว แล้วนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด สทศ. ในเดือน มีนาคมนี้ เพื่อพิจารณาลงโทษต่อไป”นายสัมพันธ์กล่าว
นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สทศ. รายงานเรื่องดังกล่าวให้ตนรับทราบแล้ว โดยเรื่องที่นักเรียนร้องขอให้คะแนนฟรีในวิชาสังคมศึกษานั้น ได้ให้นโยบายสทศ.ไปทบทวนว่า คำถามข้อดังกล่าว กำกวมจริงหรือไม่ และคำถามมีความเหมาะสมถูกต้องหรือไม่ ถ้าเกิดความผิดพลาดที่ข้อสอบก็ต้องยกประโยชน์ให้เด็ก ส่วนกรณีที่มีนักเรียนนำข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษไปโพสต์ในไลน์กลุ่มปิดนั้น ทราบว่าสทศ.อยู่ระหว่างตรวจสอบ เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง เด็กต้องมีวินัย มีความซื่อสัตย์ ส่วนการลงโทษผู้ทำผิดนั้นไม่น่ากังวลเพราะ มีระเบียบลงโทษอยู่แล้วทั้งเด็กที่โพสต์และอาจารย์ผู้คุมสอบ