เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีที่สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) และผู้อำนวยการโรงเรียน เรียกร้องให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สอบบรรจุผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการ แทนตำแหน่งว่าง ซึ่งมีมากกว่า 4,000 อัตรา ทำให้บางโรงเรียนเกิดปัญหาในการบริหารจัดการ ว่า โดยหลักการทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เห็นด้วยที่ต้องเร่งดำเนินการสอบบรรจุผู้บริหารสถานศึกษาแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งมีกว่า 4,000 อัตรา อย่างไรก็ตาม ต้องรอคำสั่งศาล ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนไผ่ใหญ่ศึกษา จ.อุบลราชธานี ฟ้องต่อศาลปกครองอุบลราชธานี ขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ.ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 24 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ในข้อ 10 และข้อ 11 ต่อมาสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ชะลอการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ที่ยื่นคำร้องขอย้ายระหว่างวันที่ 1-15 สิงหาคม 2560 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งทุเลา เป็นผลให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ยังไม่มีคำสั่งอนุมัติ แต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการ
นายบุญรักษ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ แม้คำร้องดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับการสอบบรรจุผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ถ้าไม่สามารถย้ายผู้บริหารได้ก่อน ก็ไม่สามารถเปิดสอบบรรจุได้ เพราะยังไม่มีตำแหน่งว่างสุดท้ายจากการโยกย้าย ซึ่งหากเปิดสอบบรรจุ ผู้ที่คิดว่าตัวเองมีสิทธิจากการย้ายผู้บริหารก็อาจร้องต่อศาล ทำให้เกิดปัญหาตามมาอีก
“เรื่องนี้ สพฐ.แก้ปัญหาในทางปฏิบัติไปแล้ว โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) แต่ตั้งครู หรือรองผู้อำนวยการ รักษาการแทน จัดอบรมให้กับผู้ที่นั่งรักษาการผู้บริหารสถานศึกษา และกรณีที่ต้องตัดสินใจในเรื่องยาก เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง ให้นำเสนอเรื่องให้ สพท.ดำเนินการแทน ขณะเดียวกัน สพฐ.อยู่ระหว่างเตรียมการตั้งคณะทำงานเพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการเปิดสอบผู้อำนวยการสถานศึกษา แต่เท่าที่ดูข้อกฎหมายในเบื้องต้น คิดว่าไม่สามารถเปิดสอบได้ เพราะจะทำให้มีผู้เสียสิทธิ ซึ่ง สพฐ.เองไม่สามารถตัดสินใจได้ฝ่ายเดียว ต้องนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ.ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นประธาน พิจารณาด้วย ทั้งนี้ สพฐ.ยินดีรับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหาเรื่องนี้จากทุกช่องทาง หากใครมีข้อเสนอก็ส่งมาได้” นายบุญรักษ์ กล่าว
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวว่า ตามหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษา สพฐ.ในฐานะต้นสังกัดจะต้องกำหนดปฏิทินการคัดเลือก และตัวชี้วัดต่างๆ ให้ ก.ค.ศ.พิจารณา ปัญหาที่เกิดขึ้นอยากให้แยกออกเป็น 2 เรื่อง คือ การสอบผู้อำนวยการสถานศึกษา และรองผู้อำนวยการสถานศึกษา กับการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตนคงไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก ทั้งนี้ ส่วนตัวทราบว่าในทางปฏิบัติ สพฐ.ได้แก้ปัญหาเบื้องต้น เพื่อให้การบริหารสถานศึกษาสามารถเดินต่อไปได้ โดยให้แต่งตั้งรักษาการผู้อำนวยการสถานศึกษา รวมถึง มีข้อแนะนำในการบริหารงานไปแล้ว คิดว่าคงพอทุเลาปัญหาไปได้บ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สพฐ.ระบุว่าหากคำตัดสินของศาลยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ก.ค.ศ.จะปรับแก้หลักเกณฑ์เพื่อให้สามารถสอบคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาได้ก่อนหรือไม่ นายพินิจศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องทางกฎหมาย ไม่ขอตอบประเด็นนี้
