“สตีเฟน ฮอว์กิ้ง” ไขปริศนา เกิดอะไรขึ้นก่อน “บิ๊กแบง”?

“สตีเฟน ฮอว์กิ้ง” นักทฤษฎีฟิสิกส์ชาวอังกฤษซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังและเป็นที่ยอมรับกันมากที่สุด

ผู้หนึ่งของโลกในปัจจุบัน เชื่อว่าตนมีคำตอบของคำถามปริศนาที่ไม่มีใครอยากตอบ นั่นคือคำถามที่ว่า หาก “บิ๊กแบง” เป็นจุดกำเนิดของจักรวาลอันเป็นที่มาของสรรพสิ่งแล้ว ก่อนหน้าที่จะเกิดบิ๊กแบง จักรวาลมีสภาพเป็นอย่างไร? มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่?

ฮอว์กิ้งตอบคำถามดังกล่าวไว้ในรายการโทรทัศน์ “สตาร์ทอล์ก” ของสถานีโทรทัศน์เนชั่นแนล จีออกราฟิก แชนเนล โดยมี นีลเดแกรสส์ ไทสัน นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงชาวอเมริกันเป็นพิธีกร เผยแพร่เมื่อ 4 มีนาคมที่ผ่านมา โดยฮอว์กิ้งหยิบยกเอาทฤษฎีที่รู้จักกันในชื่อ “โน-บาวดารี พร็อพโพซอล” หรือ “ภาวะ ฮอว์กิ้ง-ฮาร์เทิล” ของตนเองมาอธิบายเอาไว้

ฮอว์กิ้งกล่าวถึงอดีตที่ไกลสุดของจักรวาลเอาไว้ว่า “สภาวะขอบเขตสุดของจักรวาล ก็คือการที่มันไม่ได้มีขอบเขต” โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันรู้กันแล้วว่าจักรวาลนั้นขยายตัวออกไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ถ้าสมมุติเรามีรีโมตคอนโทรล แล้วย้อนเหตุการณ์กลับไปได้เรื่อยๆ จักรวาลก็จะหดเล็กลงไปเรื่อยๆ ตามเวลาที่เราย้อนหลังกลับไป และหากย้อนกลับไปไกลมากพอ คือผ่านช่วงเวลาราว 13,800 ล้านปีแล้วก็จะพบว่า จักรวาลทั้งหมดจะหดเล็กลงจนมีขนาดเล็กเท่ากับอะตอมหนึ่งเท่านั้น

Advertisement

ทรงกลมระดับเล็กกว่าอะตอมดังกล่าว คือสิ่งที่รู้จักกันในชื่อซิงกูลาริตี” หรือ “ภาวะเอกฐาน” โดยที่ภายในทรงกลมเล็กถึงที่สุดดังกล่าวนั้นคือสสารของสรรพสิ่งที่อยู่ในรูปของความร้อนและพลังงานที่อัดกันจนแน่นเป็นอนันต์ จนกระทั่งกฎทางฟิสิกส์และเวลา ตามที่เรารู้กันในขณะนี้ไม่ทำงานอีกต่อไป

หรือพูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “เวลา” ไม่ได้มีอยู่ หรือคงอยู่ ก่อนที่จักรวาลจะเริ่มต้นการขยายตัว หรือพูดได้เช่นกันว่า เข็มแห่งเวลาจะหดลงไปเรื่อยๆ จนเป็นอนันต์ตามขนาดของจักรวาลเล็กลงและเล็กลง แต่ที่สุดแล้วก็จะไม่เล็กลงไปจนถึงจุดเริ่มที่ตระหนักได้ชัดเจน

“เวลา” ในช่วงก่อนหน้าเกิดบิ๊กแบงในทรรศนะของฮอว์กิ้งนั้น

Advertisement

จะ “บิดโค้ง” และในที่สุด “ก็จะบรรลุถึงจุดที่ใกล้กับความว่าง ไม่มีอะไรเลยอยู่เสมอ แต่ก็จะไม่กลายเป็นความว่างเปล่านั้น” ซึ่งเท่ากับว่า ฮอว์กิ้งยืนยันว่าแม้จะใกล้กับภาวะว่างเปล่า แต่จริงๆ แล้ว บิ๊กแบง

ก่อให้เกิดสรรพสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่าไม่ได้ ภาวะดังกล่าวจึงเพียงแค่ “ใกล้เคียงกับความว่างเปล่า” เท่านั้น

“มันเป็นมาเช่นนั้นถ้ามองจากมุมมองของมนุษยชาติ” ฮอว์กิ้ง กล่าว

ก่อนหน้านี้ ในการบรรยายถึง “ข้อเสนอว่าด้วยภาวะไม่มีขอบเขต” หรือ “โน-บาวดารี พร็อพโพซอล” ฮอว์กิ้งเคยระบุไว้ว่า “เหตุการณ์ (อีเวนต์) ก่อนเกิดบิ๊กแบงนั้นไม่อาจนิยามได้ เพราะไม่มีวิธีการใดไปวัดเหตุการณ์เหล่านั้นได้ เนื่องจากเหตุการณ์ก่อนเกิดบิ๊กแบง ไม่ก่อให้เกิดผลที่สังเกตการณ์ได้ ดังนั้น เราอาจตัดช่วงก่อนหน้านี้ทิ้งไปจากทฤษฎีก็ได้ โดยกล่าวเพียงว่า เวลา เริ่มต้น ณ จุดที่เกิดบิ๊กแบง”

ฮอว์กิ้งบอกว่า จักรวาลจะวิวัฒน์ไปโดยอิสระจากสิ่งที่มันเคยเป็นก่อนหน้านี้ เริ่มต้นตั้งแต่บิ๊กแบงเป็นต้นมา แม้แต่ปริมาณของสสารในจักรวาลเองก็แตกต่างจากที่เคยเป็นเมื่อก่อนการเกิดบิ๊กแบง

ทั้งนี้ เนื่องจาก “กฎทรงมวลของสสาร” จะถูกทำลายใช้การไม่ได้เมื่อเกิดบิ๊กแบงขึ้นนั่นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image