วันที่ 29 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภัยแล้งกำลังลุกลามอย่างหนัก ล่าสุดได้ทำให้บึงหนองระแหง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำกลางเมืองชัยนาทลดลงอย่างรวดเร็ว ประชาชนต่างกังวลว่าจะขาดน้ำเล่นสงกรานต์ โดยที่หนองระแหง ใน ต.บ้านกล้วย บึงน้ำขนาด 150 ไร่ แหล่งน้ำสาธารณะกลางเมืองชัยนาท มีระดับน้ำที่ลดลงจนต่ำกว่าระดับตลิ่งกว่า 1 เมตร และกินเวลายาวนานกว่า 4 เดือน ซึ่งแหล่งน้ำแห่งนี้ ชุมชนรอบบึงใช้เป็นน้ำอุปโภคและรดพืชสวน รวมถึงการเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่องมาทุกปี
ชาวบ้านริมบึงเปิดเผยว่า ในปีนี้ระดับน้ำลดลงเร็วและต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี ทำให้เริ่มกังวลว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีคนมาเล่นสาดน้ำรอบบึงจำนวนมากเพราะอยู่ในโซนเล่นน้ำถนนข้าวโพดที่มีชื่อเสียงของจังหวัด จะไม่มีน้ำเพียงพอเพราะปัจจุบันระดับน้ำลดต่ำเหลือเพียงประมาณร้อยละ 20 ของความจุบึงเท่านั้น
ขณะที่ภาวะภัยแล้งได้เริ่มส่งผลกระทบกับระบบน้ำประปาในพื้นที่ตัวเมืองชัยนาท ทำให้ในหลายชุมชนน้ำประปาเริ่มไหลเบาลง โดยนายกิตติ พุ่มศรีธร ผจก.การประปาส่วนภูมิภาค จ.ชัยนาท ได้เปิดเผยว่าในระยะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลง ทำให้เครื่องสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดชัยนาท ซึ่งสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อน ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ในบางช่วงเวลาน้ำประปาอาจจะไหลเบาและในบางชุมชนปลายสายส่งน้ำอาจจะไม่ไหลได้ ซึ่งทางการกระปาฯจังหวัดชัยนาทกำลังเร่งเสริมจุดสูบน้ำเพื่อให้ได้น้ำดิบเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนแล้ว
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนายเอกศิษฐ์ ศักดีธนาภรณ์ ผอ.โครงการเขื่อนเจ้าพระยา เปิดเผยว่า ล่าสุดที่จุดวัดน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พบว่าระดับน้ำเหนือเขื่อน วัดได้ 14.41 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลดลงจากเมื่อวาน 3 ซม. อยู่เหนือจุดวิกฤตระดับมาตรฐานเพียง 41 ซม. ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 5.96 เมตร โดยเขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อผลักดันน้ำเค็ม รักษาระบบนิเวศน์ และเพื่อผลิตน้ำประปาในจังหวัดภาคกลาง โดยคาดว่าจะมีน้ำใช้ได้อีกประมาณ 124 วัน
