ผอ.อุทยานฯสุโขทัย เตรียมแจงศาลปมถูกฟ้อง 50 ล้าน ชี้วัดศรีชุมใหม่เพิ่งสร้าง 25 ปี ไม่เกี่ยววัดเก่า แค่ตั้งชื่อตาม

ภาพจากเฟซบุ๊กอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

สืบเนื่องกรณีวัดศรีชุม อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ดำเนินการฟ้องแพ่งอุทยานประวัติสุโขทัย ,สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย และกรมศิลปากร เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท โดยทางวัดได้ประเมินการว่ากรมศิลปากรได้ดำเนินการจัดเก็บค่าเข้าชมโบราณสถานวัดศรีชุมโดยมิชอบ อีกทั้งเป็นการละเมิดสิทธิของการนับถือพุทธศาสนา การต้องซื้อบัตรเพื่อกราบพระพุทธรูป (พระอจนะ) ไม่มีธรรมเนียมใดกระทำกัน (อ่านข่าว วัดศรีชุมฟ้องแพ่งกรมศิลป์ 50 ล้าน ชี้ละเมิดสิทธิ์ชาวพุทธ จะไหว้พระอจนะต้องซื้อตั๋ว สังคมสงสัยทำได้หรือ?)

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ร้อยเอกบุณยฤทธิ์ ฉายสุวรรณ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำคำชี้แจงต่อศาลโดยนิติกรของกรมศิลปากร ซึ่งศาลจะนัดหมายทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้ง ส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจในคดีความดังกล่าว เนื่องจากวัดศรีชุมที่ทำการฟ้องร้อง เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ เพิ่งได้รับการรับรองเป็นวัด เมื่อ พ.ศ.2536 ก่อนหน้านั้นเป็นสำนักสงฆ์ที่ไม่มีความเชื่อมโยงในประวัติศาสตร์ของวัดศรีชุมที่เป็นวัดสมัยสุโขทัยแต่อย่างใด

ศาลให้ทำคำชี้แจงไป ตอนนี้นิติกรดูแลอยู่  ในระดับพื้นที่ ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะจริงๆแล้ว วัดศรีชุมในปัจจุบันนี้เป็นวัดใหม่ เพิ่งได้รับการรับรองเมื่อ พ.ศ.2536 เดิมเป็นสำนักสงฆ์ วัดศรีชุมเก่ากับวัดศรีชุมใหม่เป็นคนละเรื่องกัน วัดเก่าเป็นวัดสมัยสุโขทัย มีเนื้อหาและข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัดศรีชุมใหม่ซึ่งตั้งบนพื้นที่ใกล้เคียงกันเท่านั้น พระอจนะและสถาปัตยกรรมต่างๆซึ่งเป็นโบราณสถาน กรมศิลปากรดูแลมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ยังรกร้าง จนกระทั่งตอนนี้มีสภาพที่สวยงาม เรียบร้อย โดยวัดศรีชุมใหม่ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย

ร้อยเอก บุณยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่วัดศรีชุมระบุว่าการเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อกราบไหว้พระอจนะเป็นการละเมิดสิทธิ์ชาวพุทธนั้น มองว่าไม่กระทบสิทธิ์ เพราะจริงๆแล้วเป็นการเก็บค่าเข้าโบราณสถาน ไม่ใช่การเก็บค่าใช้จ่ายในการเข้ากราบพระอจนะ โดยจะนำเงินดังกล่าวเข้ากองทุนโบราณคดี เพื่อใช้สำหรับการดูแลและอนุรักษ์โบราณสถานทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่วัดศรีชุมในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเท่านั้น

Advertisement

เงินส่วนนี้ อย่าคิดว่าเป็นกำไร เพราะเป็นเงินที่นำมาดูแลโบราณสถาน ต้องตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ จ้างคนงาน จริงๆแล้วรายได้จากคนไทยแทบไม่มี เพราะถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษาทำหนังสือขออนุญาตเข้าชม ก็อนุญาตทั้งหมดโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย คนท้องถิ่นเราก็ไม่เก็บ เก็บเฉพาะนักท่องเที่ยว แค่คนละ 20 บาท รายได้ส่วนใหญ่มาจากชาวต่างชาติ ซึ่งเก็บรายละ 100 บาท เงินที่ได้ กรมศิลปากรนำไปดูแลโบราณสถานโดยภาพรวมของประเทศ ไม่ใช่แค่สุโขทัย เพราะต้องส่งเข้ากองทุนโบราณคดี เชื่อว่าสังคมเข้าใจกรมศิลปากรในประเด็นนี้ร้อยเอก บุณยฤทธิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image