รอฟัง’ของใหม่’ โดย นฤตย์ เสกธีระ

อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล จำแนกความขัดแย้งทางการเมืองของไทยออกเป็น 2 ขั้ว

ฝ่ายหนึ่งคืออนุรักษ์ อีกฝ่ายหนึ่งคือก้าวหน้า

ฝ่ายก้าวหน้าที่นิยมประชาธิปไตย ซึ่งอาจารย์เสกสรรค์บอกว่า “ประชาธิปไตย” นี้ในหลาย ๆ ประเทศเขาถือว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องก้าวหน้า

แถมบางทีอาจจะฟังแล้วรู้สึกล้าสมัยไปเสียด้วยซ้ำ

Advertisement

แต่นั่นคือประเทศอื่น

สำหรับประเทศไทย “ประชาธิปไตย” ยังคงอยู่ในนิยมฝ่ายก้าวหน้าได้

เพราะไทยยังก้าวไปไม่ถึงเสียที

Advertisement

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจารย์เสกสรรค์ได้ขึ้นปาฐกถาในงานคล้ายวันเกิด ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อ่านและฟังแล้วมีเรื่องน่าสนใจหลายประการ

แต่ประการที่รู้สึกสนใจที่สุดคือ การบ้านที่ฝากให้ทุกฝ่ายได้คิด 

โดยเฉพาะฝ่ายที่สนับสนุนประชาธิปไตย

อาจารย์เสกสรรค์บอกว่า ปัญหาใหญ่ของประชาธิปไตยมิได้อยู่ที่การถูกยึดพื้นที่หรือถูกล้มกระดานอยู่เป็นระยะๆ โดยฝ่ายตรงข้ามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

หากแต่ปัญหายังอยู่ที่ความไม่สามารถป้องกันตัวของระบอบและผู้คนที่สมาทานแนวคิดชุดนี้ด้วย

สรุปออกมาเป็นรูปธรรมได้ว่า ฝ่ายประชาธิปไตยควรทำ 3 เรื่อง แต่ยังทำไม่ได้

หนึ่ง คือการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง

สอง คือการปฏิรูประบบราชการให้ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น

และสาม คือการขยายงานรัฐสภาด้วยการเกี่ยวร้อยภาคประชาชนเข้ามาไว้ในกระบวนการนิติบัญญัติอย่างสม่ำเสมอ

อาจารย์เสกสรรค์มองว่า ที่ผ่านมาบรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองไม่เพียงลืมผลักดันให้มีการขยายโครงสร้างประชาธิปไตยเท่านั้น

แต่ยังใช้ความสัมพันธ์แบบจารีตที่ไม่เป็นสมัยใหม่ มาสร้างฐานเสียง

สร้างฐานเสียงทั้งในและนอกพรรค

ทำให้ระบบพรรคการเมืองกลายเป็นอวตารใหม่ของระบบอุปถัมภ์

แค่ปาฐกถาพิเศษท่อนนี้ หากมีโอกาสได้นำไปขบคิดเป็นการบ้าน

การเมืองไทยก็มีโอกาสเติบโตขึ้น

ทั้งการหาหนทางเชื่อมโยงอำนาจรัฐกับประชาชนให้มากกว่าที่ผ่านมา

ทั้งการปรับเปลี่ยนสร้างฐานเสียง โดยไม่ใช้ “วิธีที่ไม่เป็นสมัยใหม่”

ไม่ทำให้พรรคการเมืองเป็นเพียงอวตารใหม่ของระบบอุปถัมภ์

ในช่วงเวลานี้ กกต.เริ่มจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ และกำลังจะประชุมพรรคการเมืองเดิม

หากว่ากันด้วยแนวทางการหาเสียง พรรคการเมืองเดิมมีไม้เด็ดที่ “ประชานิยม”

พรรคฝ่ายทหารกำลังชูแนวทาง “ประชารัฐ” 

แล้วพรรคการเมืองที่เหลือจะเสนอแนวทางอะไร

ปาฐกถาของอาจารย์เสกสรรค์เป็นอีกทางเลือกที่สามารถนำไปปรับใช้

ใช้ “ของใหม่” ที่ประเทศไทยยังไม่เคยมี ไม่ต้องประชานิยม ไม่ต้องประชารัฐ

แต่ตอบโจทย์กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ตอบคำถามเรื่องการปฏิรูปการปฏิบัติงานของข้าราชการ

และการเปิดทางให้ประชาชนมีสิทธิมีส่วนกับกฎกติกาที่รัฐเป็นผู้ออก

“ของใหม่” เช่นนี้ หากอาจจะยังมองไม่เห็น เหมือนครั้งหนึ่งที่ยังไม่มีพรรคไทยรักไทย จึงมองไม่เห็นเรื่อง “ประชานิยม” ที่สัมผัสได้

แต่ถ้าใครคิดออก ย่อมมี “ของใหม่” ออกมานำเสนอให้ประชาชนเลือก

เลือกอย่างมีความหวัง

หวังว่าวัฏจักรอันน่าเบื่อที่หมุนเวียนอยู่ในขณะนี้จะหมดไป

หวังว่าวงจรอุบาทว์ที่หนักถ่วงความเจริญของประเทศจะหมดไป

…………………..

นฤตย์ เสกธีระ [email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image