ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 พ.ต.อ.ธารารักษ์ ปาระมีสา รองผบก.ภ.ตาก ได้เดินทาง ไปตรวจสอบของกลางงาช้าง และหางช้าง และเครื่องชั่ง ซึ่งเป็นของกลาง ที่สถานีตำรวจภูธรพะวอ ตำบลพะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านห้วยยะอุ ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (บก.ทปส.) และทหารกองกำลังนเรศวร ได้ร่วมกันจับกุมได้ที่จุดตรวจฯ หลังจากสืบทราบว่ามีขบวนการลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเข้าไปพื้นที่จังหวัดชั้นใน ต่อมาได้พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน บน. 5094 ยโสธร จึงขอทำการตรวจค้น พบงาช้าง จำนวน 24 กิ่ง ซุกซ่อนบนเครื่องรถยนต์ ตรงข้ามแบตเตอรี่ และหางช้างจำนวน 16 หาง ซุกหลังที่นั่งผู้โดยสาร และยังพบเครื่องชั่ง จำนวน 1 เครื่อง จึงทำการตรวจยึด และควบคุมตัวนายสายธาร มะลิวรรณ์ อายุ 45 ปี คนขับรถยนต์ และนานบุญเพ็ง อุตวัฒน์ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นคราญช้างด้วย
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การสารภาพว่า ได้ไปซื้องาช้าง และหางช้าง จากชาวเมียนมา ที่บริเวณชายแดนไทย – พม่า จังหวัดตาก เพื่อนำของทั้งหมดไปจำหน่ายให้ลูกค้าในภาคอีสาน ซึ่งลูกค้าจะซื้อไปทำเครื่องประดับ และเครื่องลางของขลัง กับวัตถุมงคล
พ.ต.อ.ธารารักษ์ กล่าวว่าการจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีแผนการปราบปรามการกระทำความผิด โดยเฉพาะงาช้าง เพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส ) ทางบกภ.ตาก จึงมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบ และเข้มงวด กวดขันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ในการสกัดกั้นการตรวจค้นจับกุม
พ.ต.อ.ธารารักษ์ กล่าวว่า ได้ตั้งข้อกล่าวหา ชายทั้ง 2 คน ในข้อกล่าวหา ร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และมีงาช้างไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีอัตราโทษสูง ตามพรบ.งาช้าง พ.ศ. 2558 ถ้าเป็นการค้า มีโทษ จำคุก 3 ปี ปรับ 6 ล้านบาท ในเบื้องต้น ทางตำรวจกำลังสืบสวน สอบสวนขยายผลไปถึงต้นทาง และปลายทางว่า มีใครร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่
