‘แผน’พยานฝ่ายครูปรีชา คดีลอตเตอรี่30ล้าน แจ้งความทีวีช่องดังหมิ่นประมาท

จากกรณีคดีลอตเตอรี่อลเวง 30 ล้านบาท ที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ กับนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต่างฝ่ายต่างแสดงความเป็นเจ้าของในสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว กระทั่ง ผบช.ภ.7 แถลงว่า จากพยานหลักฐานแล้วลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลน่าจะเป็นของนายปรีชา และเตรียมแจ้งข้อหากับ ร.ต.ท.จรูญในข้อหายักยอกทรัพย์ที่ตกหายและรับของโจร กระทั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้โอนคดีมาให้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เข้าไปดำเนินการเพื่อความโปร่งใส ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.ขออนุมัติหมายจับนายปรีชาและนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าลอตเตอรี่ ฐานแจ้งข้อความเท็จต่อพนักงานสอบสวนเพื่อแกล้งให้บุคคลอื่นต้องรับโทษ รวม 4 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 173, 174 วรรคสอง และ 267 กระทั่งมีการจับกุมดำเนินคดี และส่งฝากขังศาลอาญา โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวไปตีราคาคนละ 100,000 บาท ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 14 มีนาคม นายฐนุกร หรือแผน เหลืองใหม่เอี่ยม อายุ 46 ปี อาชีพพนักงานขับรถธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี พยานฝ่ายนายปรีชา ในคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท หอบเอกสารเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ โตไร่ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ 1.บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง 2.นายพุทธ อภิวรรณ ผู้ดำเนินรายการต่างคนต่างคิด และ 3.นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ วิมล ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

นายฐนุกร เปิดเผยว่า เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีเนื่องจากรายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศเนื้อหาในลักษณะจูงใจประชาชน ว่า ตนให้ร้าย พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ข้อเท็จจริงตนไม่ได้ให้ร้ายผู้ใด อีกทั้งรายการดังกล่าวยังให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณชนอีกหลายประการ จึงเดินทางมาแจ้งความเอาไว้เพื่อประสงค์ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า การเห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมล ก้มเก็บลอตเตอรี่นั้นเห็นอยู่ในระยะใกล้ๆ 2 เมตร ไม่ใช่ 20 เมตร ตามที่มีหลายฝ่ายเข้าใจผิดไป ส่วนในวันที่ 15 มีนาคม ที่มีกระแสข่าวว่า บก.ป.เรียกตนเข้าไปให้ปากคำนั้นยังไม่รู้เรื่อง ถ้าหากต้องเข้าไปพบตำรวจ บก.ป.จริงก็จะขอปรึกษาทนายความก่อน ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยมากไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว โทรศัพท์มือถือก็พังไปแล้ว 1 เครื่อง เพราะต้องรับสายผู้สื่อข่าวทั้งวัน

ด้าน ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า จะสอบสวน นายฐนุกร พร้อมดูเอกสารหลักฐานที่นำมาแจ้งความ จากนั้นจะรับเป็นคดีเอาไว้ก่อนย้อนไปตรวจสอบหลักฐานสำคัญ โดยเฉพาะเทปบันทึกภาพวันที่สถานีโทรทัศน์ออกอากาศอีกครั้ง จากนั้นจะแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image