เปิดตัวกันออกมาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับชุดแข่งขันของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหม่ ที่จะเปิดใช้ครั้งแรกในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 46 ในวันที่ 22 และ 25 มีนาคมนี้
นับเป็นการกลับมาใช้สีชุดเหย้า-เยือนสีหลักของทีมชาติไทยอีกครั้ง นั่นคือสีน้ำเงิน-แดง แถมยังมีชุดเยือนที่ 3 ซึ่งเป็นสีขาวออกมาอีกหนึ่งตัวด้วย
และเช่นเดิมครั้งนี้วอริกซ์ ยังออกมาใน 2 รูปแบบคือแบบเพลเยอร์ และแบบเกรดแฟนบอล เพียงแต่ครั้งนี้พิเศษกว่าคือเสื้อในรูปแบบเพลเยอร์นั้น จะไม่มีวางขายทั่วไป
สาเหตุส่วนหนึ่งที่เสื้อในรูปแบบเพลเยอร์ จะไม่มีการวางขายทั่วไปนั้น อันเนื่องมาจากการอัญเชิญตราพระมหาพิชัยมงกุฎ มาประดับไว้เหนือตราช้างศึก
หลายคนสงสัยว่าเมื่อก่อนตราพระมหาพิชัยมงกุฎ ก็มีประดับอยู่บนเสื้อทีมชาติทุกตัวที่วางขาย แต่ทำไมครั้งนี้ไม่สามารถทำได้ ก็ต้องบอกว่าเมื่อก่อนที่เคยปฏิบัติกันมานั้นไม่เคยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตมาก่อน
ในครั้งนี้ทางสมาคมฯ และผู้ผลิตอย่างวอริกซ์ ได้ทำการศึกษามาเป็นอย่างดี และมองว่า ตราพระมหาพิชัยมงกุฎ ไม่ควรนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ ดังนั้นจึงให้มีเพียงแต่นักฟุตบอลเท่านั้นที่จะได้รับตรานี้ไป
ซึ่งหลังจากนี้นักฟุตบอลไทยที่ติดทีมชาติ จะได้รับความภูมิใจของการเป็นทีมชาติ มีเสื้อที่ติดตราพระมหาพิชัยมงกุฎ และกลับไปสู่จุดประสงค์เดิมของการพระราชทานตรานี้จากรัชกาลที่ 6 เพื่อคณะนักฟุตบอลแห่งสยาม นั่นเอง
ในเรื่องนี้อยากให้มองว่าทั้งทางสมาคมฯและวอริกซ์ พยายามหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่มีใครไม่อยากทำเสื้อที่เหมือนกับที่นักเตะใส่ออกมาขาย ดังนั้นนี่เป็นสิ่งที่อยากให้แฟนบอลเข้าใจด้วย
ทีนี้เรามาลองดูกันว่า เสื้อช้างศึก “Changsuek The Genesis” ตัวนี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง
เริ่มกันที่ส่วนของเสื้อเพลเยอร์ สำหรับนักเตะกันก่อน ครั้งนี้วอริกซ์ทุ่มทุกอย่างเพื่อทำเสื้อที่จะช่วยดึงศักยภาพนักเตะออกมามากที่สุด ใช้ผ้าสแปนเด็กซ์ ที่ยืดหยุ่นได้ดี แถมยังใช้นวัตกรรม คอมแบทเท็ค ที่ทำให้ผู้ใส่รู้สึกสบาย ซึมซับเหงื่อได้ดี ถ่ายเทความร้อนได้ดีอันทำให้เหงื่อออกช้า เสริมสมรรถภาพนักกีฬาให้ดียิ่งขึ้น
ในส่วนของแขนเสื้อนั้นมีลวดลาย “Warrior’s Pulse” ที่สื่อถึงชีพจรของนักรบ และยังเป็นการหลอมรวมทุกชีพจรของคนไทยให้เป็นหนึ่งอีกด้วย
ขณะที่โลโก้ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเสื้อนั้น ใช้แบบใหม่ พร้อมด้วยเทคนิคพิเศษทำให้เกิดลวดลายอันสวยงาม และใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น
ปิดท้ายที่ด้านข้างลำตัวตัดต่อด้วยวัสดุ Air Flow Elastic Tape ที่มีความยืดหยุ่น ถ่ายเทระบายอากาศได้ดี แถมด้วยลูกเล่นแถบสีธงชาติไทยแฝงไว้ด้านในอีกด้วย
มาต่อกันที่เสื้อในเกรดแฟนบอลกันบ้าง ความพิเศษของเสื้อในเกรดแฟนบอลคือการดีไซน์แบบที่สามารถสวมใส่ทั้งสองด้านได้นั่นเอง นับเป็นความแปลกใหม่ที่หากใครไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
ด้านนอก รูปลักษณ์จะเหมือนกับเสื้อเกรดเพลเยอร์ทั้งหมด ต่างกันตรงที่ในส่วนของตราพระมหาพิชัยมงกุฎนั้นจะเป็นธงไตรรงค์แทน ส่วนโลโก้ช้างศึกกับวอริกซ์นั้น จะใช้วัสดุ Gold Metalic High Density ที่มีคุณภาพดีเช่นกัน
ส่วนด้านใน เมื่อกลับออกมา ด้านขวาจะมีโลโกวอริกซ์ ส่วนด้านซ้ายนั้นจะมีข้อความว่า Mission of Honor อันหมายถึง ภารกิจแห่งเกียรติยศร่วมกัน ของทั้งนักฟุตบอล และแฟนบอล ในการทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ขณะที่ลวดลายของ “Warrior’s Pulse” นั้นจะมาอยู่ตรงกลางของเสื้อแทน
ส่วนเนื้อผ้านั้นจะเป็นโพลีเอสเตอร์ที่ถักทอมาโดยเฉพาะมีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย มีเทคโนโลยีคอมแบตคูล ที่ดูดซับเหงื่อดี ระบายอากาศได้ดีเช่นกัน
สนนราคาของเสื้อในรุ่นแฟนบอลนี้ มาในราคา 990 บาท ก็นับว่าเป็นราคาที่จับต้องได้สำหรับแฟนบอลช้างศึกทุกคน
เอาเป็นว่าตอนนี้เสื้อรุ่นนี้วางขายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากไม่รีบระวังจะไม่ได้ใส่ทันไปเชียร์ฟุตบอลคิงส์คัพ สัปดาห์หน้านี้นะครัช
