ปลุกผี โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

แฟ้มภาพ

ที่กล่าวกันว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะเป็นการต่อสู้ระหว่าง 2 แนวทางการเมือง คือ ฝ่ายเอานายกฯคนนอก กับฝ่ายต่อต้านนายกฯคนนอก หรือระหว่างฝ่ายอนุรักษนิยมทางการเมือง ซึ่งต้องการย้อนการเมืองกลับไปเหมือนยุค “ป๋าเปรม” ถอยหลังกลับไป 30-40 ปี กับฝ่ายเสรีประชาธิปไตยที่ต้องการให้การเมืองก้าวไปข้างหน้า ปฏิเสธกรอบกติกาที่ล้าหลัง

ตอนนี้เราก็เห็นภาพเช่นนั้นแล้วจริงๆ

เช่น มีหลายพรรคการเมืองที่ประกาศจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งในช่วงการรัฐประหาร และเตรียมจะเป็นนายกฯอีกสมัยในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ทั้งมีข่าวชี้ว่า พรรคพลังประชารัฐ ที่ไปยื่นจดแจ้งเอาไว้แล้วนั้น จะเป็นพรรคฐานสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ของจริง

Advertisement

ดูได้จากการใช้ชื่อพรรคที่แอบอิงคำว่า “ประชารัฐ” อันเป็นโครงการที่ทีมงานเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช. จับมือกับกลุ่มทุนใหญ่ๆ เพื่อผลักดันโครงการต่างๆ ลงสู่ชุมชน สู่ชนบท ซึ่งมีผู้วิเคราะห์เอาไว้ว่า มีเป้าหมายเพื่อครองใจประชาชนรากหญ้า ให้เหนือกว่านโยบายประชานิยมของรัฐบาลไทยรักไทย เพื่อไทย นั่นเอง

มีความเคลื่อนไหวหลายอย่าง ในการผลักดันพรรคพลังประชารัฐ ที่เห็นถึงความเชื่อมโยงกับรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนี้ แถมการใช้ชื่อซึ่งแอบอิงโครงการของรัฐบาล คสช. ก็ยิ่งเห็นความเป็นไปได้สูงมาก

ขณะเดียวกัน เมื่อมีพรรคการเมืองที่เตรียมผลักดันนายกฯคนนอกให้เข้ามากุมอำนาจหลังการเลือกตั้ง

Advertisement

ก็มีพรรคการเมืองดั้งเดิมคือ เพื่อไทย ที่มีจุดยืนชัดเจนแน่นอน นั่นคือต่อต้านนายกฯคนนอก เป็นพรรคการเมืองที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับรัฐบาลทหารและรัฐบาลที่จะสืบทอดความเป็น คสช.ต่อไปอย่างแน่นอน

รวมทั้งมีพรรคการเมืองแนวทางเลือกใหม่ ตัวแทนของคนหนุ่มสาวเลือดใหม่ ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่แรกเริ่มเปิดตัว นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจและมีจุดยืนแนวคิดที่แจ่มชัด ร่วมกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการแห่งกลุ่มนิติราษฎร์

“พรรคอนาคตใหม่” จึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่สำคัญอีกพรรค ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้

นี่คือภาพรวมของการต่อสู้ 2 แนวทางในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

แต่ขณะเดียวกัน มีพรรคการเมืองดั้งเดิมอีกหลายพรรค ที่คนในสังคมสนใจใคร่รู้ว่าจะยืนอยู่ในแนวทางไหน

โดยเฉพาะพรรคใหญ่และเก่าแก่คือประชาธิปัตย์ เมื่อโดนคำถามว่าจะสนับสนุนนายกฯคนนอก หรือไม่เอานายกฯคนนอก จะร่วมกับพรรคเพื่อไทยเพื่อต่อต้านนายกฯที่ไม่มาจากการเลือกตั้งหรือไม่

คำตอบจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงต้องหันไปปลุกคำว่าระบอบทักษิณขึ้นมา เพื่ออธิบายถึงสาเหตุที่จะไม่จับมือกับเพื่อไทย

เท่ากับว่ายังจะหาบทสรุปที่ชัดเจนสำหรับประชาธิปัตย์ไม่ได้ และไม่สุดท้ายก็คงงัดกลวิธีปลุกผีระบอบทักษิณเพื่อเป็นข้ออ้างในการตัดสินใจนั่นเอง

ทั้งยังน่าคิดว่า การปลุกผีระบอบทักษิณขึ้นมาอีกครั้งก่อนการเลือกตั้งจะมาถึง เหมือนจะสอดคล้องกับคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ว่า

“ขอให้เลือกเอาแล้วกันว่าจะเอาแบบผม หรือจะให้กลับมาที่เดิม”

นี่ก็คือการปลุกผีการเมืองช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งรุนแรง

เชื่อได้ว่า ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง กลวิธีเหล่านี้ก็จะยิ่งโหมประโคมมากขึ้น

ทั้งปลุกผีระบอบทักษิณ ปลุกผีการเมืองขัดแย้งแตกแยก ลงเอยก็ต้องไปปลุกผีเผาบ้านเผาเมืองขึ้นมาอีก

เพื่อสร้างบรรยากาศความเบื่อหน่าย-ความหวาดผวา ไม่ให้หันไปเลือกพรรคขั้วตรงข้าม คสช.นั่นเอง

……………..

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image