อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 34 “น่านเกมส์” ที่ จ.น่าน จะเปิดฉากขึ้นแล้ว ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่จังหวัดเล็กๆ ได้ทำหน้าที่จัดกีฬาระดับประเทศ
กีฬาเยาวชนแห่งชาติในช่วงหลังมักจะเป็นเวทีให้จังหวัดไม่ใหญ่ได้ทดสอบศักยภาพของตัวเองว่าพร้อมจะพัฒนาเป็นเมืองกีฬาในอนาคตหรือไม่ เหมือนปีที่แล้ว “ชุมพร-ระนองเกมส์” จับมือกันจัดประสบความสำเร็จ
“น่านเกมส์” บรรจุ 46 ชนิดกีฬา รวม 608 ทอง ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, กอล์ฟ, กาบัดดี้, กีฬาทางอากาศ, คริกเกต, คาราเต้-โด, จักรยาน, เจ็ตสกี, ชักเย่อ, ซอฟท์บอล, ซอฟท์เทนนิส, ตะกร้อ, เทควันโด, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, เนตบอล, บริดจ์, บาสเกตบอล, แบดมินตัน, เปตอง, ปันจักสีลัต, ฟุตบอล-ฟุตซอล, เพาะกาย, ฟันดาบสากล, ฟิกเกอร์สเก็ต, มวยปล้ำ, มวยสากลสมัครเล่น, ยิงปืน, ยิมนาสติก, ยกน้ำหนัก, ยูโด, ยูยิตสู, รักบี้ฟุตบอล, เรือพาย, ลีลาศ, วอลเลย์บอลในร่ม, วอลเลย์บอลชายหาด, วูซู, วู้ดบอล, สนุกเกอร์, หมากล้อม, เอ็กซ์ตรีม, ฮอกกี้, แฮนด์บอล, มวยไทยสมัครเล่น และโรลเลอร์สกีเป็นกีฬาสาธิต
สัญลักษณ์ที่ใช้จัดมาจากคำขวัญของ จ.น่าน คือ “แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง” ภายในสัญลักษณ์การแข่งขันประกอบด้วย รูปงาช้างดำ อยู่บนเรือแข่ง ด้านหน้าเรือแข่งเขียนเป็นเลขไทยคือ ครั้งที่ทำการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ คือ 34 ภายในสัญลักษณ์ มีรูปกงจักร สีแดง ขาว น้ำเงิน หมายถึง ความร่วมมือร่วมใจ รวมพลังของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ภาครัฐและเอกชน ขณะที่ตัวนำโชคเป็นโคนนทิ หรือโคอุสุภราช ซึ่งเป็นตราประจำจังหวัดน่าน
จำนวนนักกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่เดินทางร่วมชิงชัยรวม 12,333 คน มากกว่าครั้งที่แล้วที่มีนักกีฬาเข้าร่วม 11,402 คน และจังหวัดที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 972 คน อันดับ 2 จ.เชียงใหม่ จำนวน 527 คน อันดับ 3 จ.ชลบุรี จำนวน 450 คน อันดับ 4 จ.นครราชสีมา จำนวน 403 คน อันดับ 5 จ.สุพรรณบุรี จำนวน 386 คน ส่วนจังหวัดที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันน้อยที่สุดคือ จ.สระแก้วและ จ.หนองคาย จำนวน 13 คน
ด้วยความที่เป็นจังหวัดเล็กแต่ใจใหญ่ น่าน จึงขอความร่วมมือกับจังหวัดใกล้เคียงในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ให้สมบูรณ์ที่สุด ทำให้ พะเยา, แพร่, ลำปาง, เชียงใหม่ เป็นสนามแข่งขันในบางชนิดกีฬาที่มีความพร้อม แต่สนามหลักๆ ยังคงแข่งขันในเมืองเจ้าภาพนั่นเอง
“บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) กล่าวว่า เมืองน่าน เป็นจังหวัดเล็กแต่ใจใหญ่ การจราจรรถติดขัดแน่นอน เพราะนักกีฬาเยอะเเละแข่งขันทั้งหมด 46 ชนิดกีฬา ซึ่งเยอะที่สุดกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่ก็ตรงสโลแกนที่ว่า แปลงบ้าน เปลี่ยนเมือง จะทำอย่างไรให้เห็นว่าเมืองนั้น มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการค้าขาย ที่พัก และทุกๆส่วน ทุกสมาคมอยากเข้าร่วม อยากมีส่วนร่วม หากกีฬาใดกีฬาหนึ่งไม่ได้จัด ทำให้ลูกหลานที่เล่นกีฬาชนิดนั้นไม่มีส่วนร่วมในกีฬาครั้งนี้ การจัดการแข่งขันไม่ได้แปลว่าให้มาแข่งกันเอาเป็นเอาตาย ไม่ได้เพียงแค่อยากชนะกัน แต่ต้องการให้รู้จักกัน รู้จักบ้านเมืองที่เป็นเจ้าภาพนั้นเขาเป็นอย่างไร จ.น่านมีอะไร ก็เหมือนกับทุกจังหวัดที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
วิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน บอกว่า สำหรับการเป็นเจ้าภาพของจังหวัดน่านในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดไปในตัว เพราะหากนึกถึงเมืองน่าน เราจะนึกถึงคิดถึงธรรมชาติ ความเรียบง่าย สงบ ผู้คนจิตใจดี มีวัฒนธรรม วัดและขนบธรรมเนียมแบบชาวเหนือ ซึ่งใครๆ หลายคนที่ยังไม่เคยไปเยือนเลยสักครั้ง คงอยากไปลงพื้นที่ด้วยตัวเองว่าเมืองน่านมีดีอย่างไร เป็นแบบที่ใครเขาเล่าผ่านกันมาหรือไม่ เศรษฐกิจการค้าของ จ.น่านคึกคักแน่นอน เพราะจะเต็มไปด้วยนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ ผู้ปกครองจากทั่วทุกสารทิศ เข้ามาเชียร์กีฬาและถือเป็นการท่องเที่ยว พักผ่อนไปในตัว คาดว่าจะมีเงินสะพัดในจังหวัดมากพอควร
ความเข้มข้นของการแข่งขันคงหนีไม่พ้นการที่จะมีจังหวัดไหนที่สามารถล้มกรุงเทพมหานคร เจ้าเหรียญทอง 32 สมัย จากการแข่งขัน 33 ครั้งได้หรือไม่ เพราะจากจำนวนนักกีฬาที่มากกว่าทีมอื่นๆ ศักยภาพของนักกีฬาที่ดีกว่าเกือบทุกชนิดกีฬา โอกาสที่ทัพเมืองหลวงจะป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัยก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก อยู่ที่ว่าจะโกยไปได้กี่เหรียญทองเท่านั้นเอง และจะทำลายสถิติจำนวนเหรียญทองสูงสุด 124 เหรียญ ที่เคยทำไว้ในครั้งที่ 32 “สุพรรณบุรีเกมส์” เมื่อ 2 ปีที่แล้วได้หรือไม่ โดยปล่อยให้นครราชสีมา, ชลบุรี, สุพรรณบุรี, เชียงใหม่ แย่งรองแชมป์กันเหมือนเดิม
กีฬาเยาวชนแห่งชาติจะยังคงเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สร้างชื่อของดาวรุ่งก่อนจะยกระดับตัวเองไปเป็นกำลังสำคัญของวงการกีฬาไทยในอนาคต
อีกไม่นานจะรู้ว่าจังหวัดท่องเที่ยวเด่น จะพุ่งแรงจนกลายเป็นกีฬาดีได้ด้วยหรือไม่
19-29 มีนาคมนี้ รู้กัน…
