สมาคมคลองไทยฯ ฝันไกล พัฒนา 2 ฝั่งคลอง เป็นศูนย์กลางการลงทุนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จ่อเสนอนายกฯพิจารณาด้วย
วันที่ 16 มีนาคม ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.สงขลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ หัวหน้าสำนักงาน จ.สงขลา เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็นการศึกษาความเหมาะสมเกี่ยวกับการขุดคลองไทยแนว 9A มีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 20 คน ตัวแทนจากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สงขลา โครงการชลประทานสงขลา ประธานอำนวยการคลองไทยภาคใต้ นายอำเภอระโนด ม.ทักษิณ ม.อ. อบจ. และสภาอุตสาหกรรม เพื่อให้ที่ประชุมได้รับทราบแนวทางการพัฒนาและความน่าจะเป็นการพัฒนายกระบบโลจิสติกส์ได้ระดับหนึ่ง แต่โครงการอาจจะส่งผลกระทบในบางเรื่อง อาทิ ด้านความมั่นคงจะเป็นการแบ่งแยกประเทศหรือไม่ การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม จะมีเรือเข้ามาใช้บริการหรือไม่ การเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชาชนของคนในพื้นที่ การป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่
ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ นายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนาสาขา จ.สงขลา เปิดเผยว่า การศึกษาในขั้นต้นความเป็นไปได้ของโครงการขุดคลองไทย ขนาดของคลองควรมีความกว้างไม่น้อยกว่า 400 เมตร ความยาว 135 กม. โดยเริ่มฝั่งอันดามัน จาก อ.สิเกา จ.ตรัง ผ่าน จ.กระบี่ นครศรีธรรมราช พัทลุง และออกสู่อ่าวไทยที่ อ.ระโนด จ.สงขลา
ว่าที่ ร.ต.ไกรธนูกล่าวว่า มีการพัฒนา 2 ฝั่งคลองให้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้า และท่าเรือ เพื่อให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแหล่งท่องเที่ยว ศูนย์กลางการเงินธนาคาร เพิ่มการจ้างงาน จะช่วยลดพื้นที่ยากจน ลดต้นทุนการขนส่งสินค้าของไทย โดยสามารถร่นระยะเวลาในการขนส่งได้ประมาณ 2 วัน โดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา ช่วยลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางสู่ไทย จะเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้า เรือประมงไทยสามารถจับปลาได้ทั้ง 2 ฝั่งทะเล
ด้าน นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา กล่าวว่า จากการศึกษาข้างต้นยังขาดข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลกระทบจากโครงการ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบ การท่องเที่ยว ผลตอบแทนจากการขุดคลองในภูมิภาคของโลก อย่างไรก็ตาม ศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา เสนอโครงการฯไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา
