ฝากไว้ในแผ่นดิน บี.กริม ใต้บรมโพธิสมภาร

เป็นบริษัทต่างชาติที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยมาครบ 140 ปี สำหรับ บี.กริม พาวเวอร์ ที่มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นร้านขายยา โดยตลอด 140 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวสะท้อนวัฒนธรรมต่างๆ อันน่าสนใจไม่น้อย 

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม ทายาทรุ่นที่ 4 จึงถือโอกาสนี้จัดทำหนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ “ฝากไว้ในแผ่นดิน” วรรณกรรมจากเรื่องจริง 6 แผ่นดินขึ้น ผ่านการจรดปากกาของ ยุวดี ต้นสกุลรุ่งเรือง นักเขียนมือรางวัล รายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย สนับสนุนโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย โดยจัดงานแถลงข่าว ณ ห้องรีเจนซี่ โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล

กับหนังสือ “ฝากไว้ในแผ่นดิน” เล่มนี้ ฮาราลด์ ลิงค์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อ บี.กริม ครบรอบ 130 ปี จึงอยากทำหนังสือสักเล่มหนึ่ง แต่กลายเป็นว่าข้อมูลต่างๆ สูญหายไปจากเหตุสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง และเหตุไฟไหม้ ที่สำนักงาน นั่นทำให้กว่าหนังสือเล่มนี้จะเสร็จลงได้ ก็กินเวลาถึง 10 ปี

ซึ่ง ยุวดี ได้เล่าถึงความยากของการเขียนหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวของ แอร์วิน ฟรีดริช มุลเลอร์ ชาวออสเตรีย และแบร์นฮาร์ด กริม ชาวเยอรมัน ที่เดินทางมาเปิดร้านขายยาที่ประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 ความพิเศษของร้านยาแห่งนี้ที่ต้องปรุงยาเองแตกต่างจากยาฝรั่งอื่นๆ ทำให้เป็นที่สนใจ ก่อนที่จะมีโอกาสได้เป็นร้านยาหลวงเมื่อทั้งคู่ได้รู้จักกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ นำมาสู่การเป็นห้างที่ขายทุกสิ่งอย่าง ไปจนถึงการขุดคลองรังสิต และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอีกหลายต่อหลายอย่าง

แต่ข้อมูลทุกอย่างนั้น สะท้อนภาพประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมได้อย่างดี

ยุวดีเล่าว่า บี.กริม ดำเนินธุรกิจภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารมาตลอด 6 รัชสมัย นับแต่รัชกาลที่ 5 ที่มีการค้าเจริญรุ่งเรือง ขณะที่เข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 6 ชาวเยอรมันตกเป็นชาติศัตรูในสงครามโลก จำต้องถูกขับไล่ออกไปจากประเทศ จนได้กลับเข้ามาอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 7 และดำเนินธุรกิจมาหลายต่อหลายรุ่น ซึ่งนอกจากจะได้อ่านประวัติศาสตร์แล้ว เรายังได้เห็นชีวิตของบริษัทฝรั่งในอดีต ว่าเหตุใดจึงประสบความสำเร็จ เขาทำการค้าอย่างไร และเหตุใดต้องกลับประเทศตัวเอง นั่นก็เพราะคนเหล่านี้มีครอบครัวที่ต้องกลับไปศึกษาต่อประเทศตน

ขณะที่ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า ตลอด 140 ปี แห่งการดำเนินงานใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร เราพยายามจะนำเอานวัตกรรม-ความเจริญสมัยใหม่มาสู่ประเทศไทยเสมอ จนได้รับความไว้วางพระทัยให้จัดทำเหรียญปราบจีนฮ่อ หรือได้สัมปทานโทรเลข ณ เกาะสีชัง, นำโทรศัพท์เชื่อมไทย-เยอรมนี จนถึงจัดหาเครื่องมือแพทย์ นอกจากพัฒนาความเจริญแล้ว เราคิดว่าคนไทยมีดี ทำอะไรก็สำเร็จ โดยอยากตอบแทนสังคม เราจึงเข้าไปผลักดันโครงการทั้งดนตรี การศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณสุขและกีฬา ให้กับไทย ในฐานะที่เราอยู่ที่นี่มาอย่างยาวนาน

สำนึกรักฝากไว้ในประเทศไทย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่