วันนี้ (18 มีนาคม) นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กแสดงความเห็นทางการเมือง
เมื่อคนผมสีเทาพูดคนหนุ่มปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่องปกติที่คนอายุ 30 ปี จะไม่สนใจสิ่งที่คนผมสีเทาพูด(คนผมสีเทาหมายถึงคนอายุ50-60ปี) ผมก็เคยเป็นเช่นนั้น เมื่ออายุ 30 ปี ผมก็ไม่เคยสนใจว่าสิ่งที่คนอายุ 50 ปีพูดมีนัยนะสำคัญอย่างไร เพราะเราเชื่อมั่นในตัวเองสูง ดังนั้น เมื่อผมลงสมัครผู้แทนราษฎรครั้งแรกผมอายุ 30 ปีต้นๆ ผมจึงได้คะแนนล้นหลาม และผมเคยได้คะแนนเป็นที่ 1 ของภาคใต้ เป็นที่ 9 ของประเทศ
เกือบ 30 ปีในรัฐสภาไทย ผมศึกษา เรียนรู้อย่างหนัก จนคิดว่า จับลมหายใจของประเทศนี้ได้แล้ว เสียดาย มาวันนี้ คนรุ่นใหม่อาจจะจัดผมอยู่ในกลุ่มคนรุ่นเก่าไปแล้ว กงล้อประวัติศาสตร์การเมืองไทย หมุนเวียนทับซ้อนกับกงล้อเก่าเสมอเราจึงเหมือนอยู่กับที่ เพราะวัฒนธรรมเราเบื่อง่าย ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ จึงทิ้งของเก่าควานหาของใหม่อยู่เสมอ ผมจำได้ว่าพรรคเดโมแครต (Democrat)ของอเมริกา มีมาตั้งแต่เริ่มตั้งประเทศอเมริกา หมุนเวียนต่อสู้กับพรรครีพับลิกัน(Republican)มาตลอด ก็ไม่เห็นใครบ่นว่าเก่า ล้าหลัง เช่นเดียวกับพรรคอนุรักษ์(Conservative)ของอังกฤษ ที่ต่อสู้ขับเคี่ยวกับพรรคแรงงาน(Liberal) มาตลอดตั้งแต่ตั้งประเทศ ก็ไม่มีใครหยันว่าแก่หรือล้าหลัง เพราะมันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การอยู่มายาวนานได้พรรคการเมืองเหล่านั้นต้องปรับตัวให้ทันสมัยอยู่เสมอ ผิดกับบ้านเรามีพรรคการเมืองผุดเป็นดอกเห็ด และน่าจะมากที่สุดในโลกแล้ว
ผมเพียงอยากจะบอกว่า ความจริงหากเราศึกษาประวัติศาสตร์กันบ้างเราก็หลุดออกจากหลุมดำนี้ได้ แต่ที่เราเป็นอย่างนี้เพราะสำหรับบ้านเมืองเราแล้วน่าจะสะท้อนคำกล่าวที่ว่า “ประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่า เราไม่เคยเรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์เลย”
