ชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน หมูที่ 5 บ้านไทยประจัน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้นำผลไม้มาให้ค่างแว่นตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่หาพบยาก ที่ส่วนใหญ่จะพบเห็นตามป่าลึกถิ่นเหนือและทางถิ่นใต้ในพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ ซึ่งได้พลัดหลงเข้ามาอยู่บริเวณริมป่าหลังบ้านชาวบ้านที่สร้างเป็นคอกเลี้ยงหมู ติดกับเขตป่าอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน มีชาวบ้านอาศัยอยู่รอบ ๆพื้นที่ โดยค่างแว่นตัวดังกล่าว มีลักษณะสีน้ำตาล เทา หรือดำ ช่วงขาหลังและหางสีเทาอ่อน ใบหน้าสีเทา รอบปากสีขาว มีแต้มขาวรอบดวงตาเหมือนใส่แว่น อุ้งมือและอุ้งตีนไม่มีขน หางยาว มือและตีนใช้ยึดจับสิ่งของต่าง ๆ มาอาศัยกระโดดโลดเต้นอยู่บริเวณคอกเลี้ยงหมู อาศัยช่วงจังหวะแย่งอาหารหมูกิน
นางน้ำฝน ปรีชา เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ไม่รู้ว่าค่างแว่นมาอยู่อาศัยหลังบ้านได้ยังไง จึงแอบเอากล้วยสุกที่ปลูกไว้ไปเสียบกับไม้ให้มันกิน ช่วงแรกไม่ยอมให้จับ แต่ต่อมาพอเอาผลไม้ไปให้กินทุกวันก็เริ่มเชื่อง และยอมให้เอามือลูบหลัง จับมือเล่น จนในที่สุดก็ให้อุ้มเล่น และยังได้เรียกให้มาเล่นด้วย ใช้เสียงเรียก “แอ้ ๆๆๆๆ ” บางทีอยู่ในบ้านได้ยินเสียงเรียกก็จะออกมาเล่นด้วย นึกว่าหิว แต่ที่ไหนได้กลับโยนของกินทิ้ง จึงรู้ว่าส่งเสียงเรียกให้เรามาเล่นด้วยนี่เอง มันเชื่องถึงขนาดไปนอนเล่นนอนกอดหอมแก้มลูกหมูที่เลี้ยงไว้ในคอกด้วยกัน
ช่วงแรกที่เข้ามาอยู่นั้นจะเข้ามาแย่งอาหารหมูกิน พอตกตอนเย็น ๆ ก็จะกลับเข้าป่าไป และจะมาหากินที่บ้านทั้งวันไม่ยอมไปไหน จะมาประมาณเกือบ 7 โมงเช้าของทุกวัน พอช่วงสายหน่อยก็จะร้องเรียกกินผลไม้ก็จะเอามาให้ และได้ตั้งชื่อมันว่า “ เจ้าหลง ” เพราะคิดว่าหลงป่ามา ด้วยความน่าเอ็นดู บางวันก็จะเอามือลูบขนพร้อมกับนำหนังยางไปมัดผูกเป็นจุกเล่นที่หัว มันก็เชื่องยอมให้อุ้ม ยอมให้จับง่าย ๆ แต่หากมีคนแปลกหน้าเข้ามาก็จะตื่น ๆ ตะกายหนีไปอยู่บนหลังคาคอกหมูบ้าง ต้นไม้ใกล้ ๆ เพื่อดูอยู่ห่าง ๆ ตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่า พอช่วงมืดคว่ำก็จะหายเข้าไปนอนในป่า เป็นอย่างนี้มาหลายเดือนแล้ว
นายอนุสรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 5 เปิดเผยว่า มีชาวบ้านมาทำไร่ปลูกผักซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่สวนป่าได้มาบอกว่ามีค่างแว่นมาอาศัยอยู่ที่หลังบ้านหนึ่งตัว และก็ยังมีชาวบ้านมาบอกว่ายังมีค่างแว่นอีกตัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน คาดว่าน่าจะมา 2 ตัว แต่คงจะแยกกันหากินอาหารกัน
ช่วงนี้ได้ประชาสัมพันธ์ชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล ให้อยู่เป็นธรรมชาติของเขา อย่างไปทำร้าย เนื่องจากค่างแว่นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มีโทษสูงสุดจำคุก 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท และยังเป็นสัตว์ที่พบหายาก
