“น้องแบม” แคลงใจผลสอบ มมส ยังไม่ได้ตอบคำถามทั้ง 6 ข้ออย่างชัดเจน (คลิป)

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มีนาคม องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม ชวนสังคมร่วมปกป้อง พลเมืองตื่นรู้ สู้โกง เพื่อกระตุ้นให้สังคมไทยร่วมปกป้องคนดี กล้าลุกขึ้นมาเปิดเผยการทุจริตคอร์รัปชันในระบบราชการไทย

หลังจาก นางสาวปณิดา ยศปัญญา นักศึกษาสาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ นางสาวณัฐกานต์ หมื่นพล อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ออกมาเผยข้อมูลการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ที่ห้องเอนกประสงค์ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

โดยภายในงานยังมีกลุ่มเยาวชนครอบครัวพอเพียง ร่วมถือป้ายให้กำลังใจ 2 เยาวชนด้วย

Advertisement

นางสาวปณิดา กล่าวว่า หลังจากที่มีการแถลงของมหาวิทยาลัยเมื่อวานนี้ ก็ยังรู้สึกคลางแคลงใจอยู่บ้าง เพราะไม่ได้ตอบคำถามทั้ง 6 ข้อที่ถามไปอย่างชัดเจน โดยวินาทีที่ต้องกราบเท้าคนที่รู้ว่าโกง แม้จะทำใจได้ยากแต่ก็คิดว่า ทำๆไป เดี๋ยวค่อยไปลุยต่อ ซึ่งตั้งแต่ฝึกงานก็ได้บอกครอบครัวตลอด ที่บ้านก็สนับสนุนเพราะคิดว่าดีกว่าให้ลูกถูกจับติดคุก โดยได้ไปยื่นเรื่องให้คสช.และ ปปช. จนผ่านไปเดือนกว่าถึงมีความคืบหน้า ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะขยายผลขนาดนี้ เพราะตั้งใจฟ้องกรณีขอนแก่นเท่านั้น ส่วนเรื่องงานที่มีคนทาบทามนั้น ตอนนี้ขอเรียนให้จบก่อน ยังไม่คิดเรื่องอื่น

“อยากให้เด็กทุกคนที่เห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เพิกเฉย ไม่ว่าระดับไหนก็โกงอยู่ดี ลุกขึ้นมาต่อสู้กับสิ่งนี้ ไม่ทนดู ไม่นิ่งเฉย และเมื่อเขาลุกขึ้นมาแล้วก็อยากให้ผู้ใหญ่ปกป้อง ปิดชื่อเขา เพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต เพราะเขาก็กลัวเช่นกัน” นางสาวปณิดาเผย

ขณะที่ นางสาวณัฐกานต์ กล่าวว่า เป็นพนักงานอัตราจ้างปีต่อปีอยู่ที่ศูนย์ ได้รับเงินเดือน 1 หมื่นบาท ตอนที่เกิดเรื่องนั้น เจ้าหน้าที่ให้กรอกเอกสารเบิก ซึ่งตนต้องคิดเองว่าคนเหล่านั้นเดือดร้อนอะไร ต้องช่วยเหลือด้านไหน ประทับลายนิ้วมือของเรา ทำอยู่ 60-70 ชุด ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่านี่คือการโกงหรือเปล่าแต่ก็ตัดสินใจไปบอกเขาว่าไม่ทำ เพราะกลัวว่าหากถูกสอบจะโดนเล่นงาน หลังจากนั้นทุกคนเปลี่ยนไป คอยจับผิด หาว่าอู้งาน แอบไปนอน ไม่ทำงาน แต่ก็ไม่คิดลาออกเพราะมีคนอีกหลายคนที่รอเงินจากเรา จนกระทั่งน้องแบมมาจึงได้ไปร้องด้วยกัน จนกระทั่งถูกไล่ออกวันที่ 27 ตุลาคม ด้วยเหตุผลว่าไม่มีงบประมาณจ้าง จนวันนี้ก็ยังไม่มีงานทำ แรกๆสภาพจิตใจแย่มาก แต่ก็คิดว่าการสู้ครั้งนี้อาจทำให้คนอีก 2,000 คนในศูนย์ฯ ได้มีเงินก็คงดี

Advertisement
นางสาวณัฐกานต์ หมื่นพล (ซ้าย) – นางสาวปณิดา ยศปัญญา (ขวา)

ขณะที่ รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา พบว่าคนตื่นรู้เรื่องการคอร์รัปชันเยอะขึ้นมาก โดยจากการสำรวจเมื่อเดือนธันวาคม 2560 พบว่าคน 87% พร้อมจะออกมาเปิดโปงการโกง ,11% ไม่สนใจและอีก 2% บอกว่า อยากจะทำแต่ก็ยังมีความกลัวอยู่ , 93% รับไม่ได้กับรัฐบาลที่โกงแม้จะทำผลงานได้ดี ขณะที่ดัชนีคอร์รัปชันอยู่ที่ 2.03 ซึ่งน้อยลงมาก โดยจะเห็นได้ว่าสมัยนี้คนสามารถใช้โซเชียลมีเดียในการเปิดโปงได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

ทั้งนี้ การปลูกฝังจำเป็นต้องเริ่มจากครอบครัว เพราะรอให้เข้าสู่ระบบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยอาจจะช้าเกินไป การสอนเด็กตั้งแต่เล็กจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเชื่อว่านักธุรกิจต่างๆ ก็คงอยากได้คนไม่โกงไปทำงาน

ขณะที่ พลโทกรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการป.ป.ท. กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการที่นางสาวปณิดาและนางสาวณัฐกานต์ ออกมาเปิดเผยตัวต่อสื่อทำให้การทำงานในประเด็นนี้เร็วขึ้น หากเป็นกรณีอื่นก็คงช้ากว่านี้ ซึ่งขณะนี้ ทางพม.และป.ป.ท. ก็มีการประสานข้อมูลกันตลอด พร้อมนำเสนอเข้าคณะกรรมการป.ป.ท.เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ โดยต้องตรวจสอบทั้ง 76 จังหวัดให้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม รวมถึงทุจริตในกองทุนเสมาที่จะนำเข้าคณะกรรมการเช่นกัน ในส่วนของสภาเด็กและเยาวชนฯนั้นก็ยังไม่ได้รับการร้องเรียนในส่วนนี้มา และยังไม่มีข้อมูลของข้าราชการระดับสูงกว่านี้ในกระทรวงพม.ว่ามีการโกง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image