ภารกิจ เสร็จนา ระวัง โคถึก ไม่กลัว (บูรพา) พยัคฆ์

ประการหนึ่ง ด้วยธรรมชาติของมนุษย์และสังคม คือความแตกต่างหลากหลาย

ไม่มีทางที่จะให้ทุกคนทุกกลุ่มคิดเห็นต้องตรงกันไปหมดได้ทุกเรื่อง

ประการหนึ่ง ด้วยธรรมชาติของอำนาจและผลประโยชน์

ที่แบ่งปันเท่าไหร่ก็ไม่มีทางทำให้เกิดความพอใจเต็มร้อยตามความต้องการได้

Advertisement

ปัญหา “ทัศนคติ” ไม่ลงรอย อันนำมาสู่การปลด-ปรับ-เปลี่ยน-โยกย้าย

ที่ตามมาด้วยความไม่พอใจของฝ่ายผู้ถูกกระทำ

ย่อมมีให้เห็นอยู่เสมอ

แม้ในกรณีล่าสุดหมาดๆ

20มีนาคม

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 4/2561 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.

เรื่อง ให้กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่

ด้วย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในกรณีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความเห็นของตนเกี่ยวกับกระบวนการและกำหนดการการเลือกตั้งด้วยถ้อยคำที่ไม่สมควร

ก่อให้เกิดความสับสน เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของ กกต. และการจัดการการเลือกตั้งให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ทั้งปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า นายสมชัยสมัครเข้ารับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. โดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ กกต.ก่อน

ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์

จึงไม่สมควรให้นายสมชัยปฏิบัติหน้าที่ กกต.ต่อไป เพื่อให้การดำเนินการเรียบร้อย โปร่งใส และเป็นธรรมแก่ผู้สมัครรายอื่นๆ

จึงให้นายสมชัยยุติการอยู่ปฏิบัติหน้าที่ กกต.

ตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับเป็นต้นไป

เรื่องนี้ไม่ใช่มาเล่นๆ

21 มีนาคม

ถ้าเป็นไปตามคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ปลดนายสมชัยออกจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่า

ในหนังสือก็ได้บอกในรายละเอียดไปหมดแล้ว ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ให้ไปอ่านในคำสั่งดู

เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ แม้ว่า กกต.ทำหน้าที่เป็นองค์กรอิสระ

เมื่อวาน (20 มีนาคม) ก็มีการหารือกันในที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

และทุกคนก็มีความเห็นด้วย

ย่อมแปลว่านี่คือ “มติเอกฉันท์”

เอกฉันท์ที่พร้อมจะเสี่ยงรับมือกับการ “ตีโต้” จากนายสมชัย

ซึ่งก็ “ไม่ธรรมดา” ได้

ในวันที่ประกาศแพร่หลาย

นายสมชัยเปิดเผยความรู้สึกว่า ไม่เสียใจต่อคำสั่งที่ออกมา

และรู้ว่าตัวเองสุ่มเสี่ยงมาโดยตลอดกับการที่จะถูก คสช.ปลด เพราะให้สัมภาษณ์ในลักษณะไม่ถูกใจใคร แต่ถือว่าทำตามหน้าที่

อาจมีคนเห็นว่าไปขัดผลประโยชน์จนทนไม่ได้

พร้อมกับยืนยันว่า การให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมาอยู่บนพื้นฐานการรักษาผลประโยชน์บ้านเมืองไม่ได้มุ่งเอาใจใคร

และการสมัครเลขาธิการ กกต.เป็นเพราะมีคุณสมบัติที่จะสมัครได้

แต่เชื่อว่า กกต.ชุดปัจจุบันคงไม่กล้าเลือกตนเป็นเลขาธิการ กกต.

เพราะรู้ดีว่าหากตนได้เป็นอาจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อความต้องการของผู้มีอำนาจในบ้านเมืองได้

นายสมชัยยังแชร์ข่าวดังกล่าวจาก “ข่าวสด” พร้อมกับโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

“รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เปิดหน้า คสช.”

สําหรับผู้ถูกกระทำบางส่วน

เลือกที่จะอยู่นิ่งเฉย ไม่ตอบโต้กับผู้มีอำนาจเหนือกว่า

เพื่อป้องกันมิให้ปัญหายืดยาวบานปลายออกไป

ไม่ว่าจะกรณีของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานยกร่างรัฐธรรมนูญคนแรก ที่ถูกคว่ำร่าง

แล้วหยอดกลับด้วยประโยคอมตะว่า

“เขาอยากอยู่ยาว”

ก่อนกลับมาร่วมมือทำงานกันต่อไป

หรืออีกหลายๆ รัฐมนตรีที่หลุดจากตำแหน่งภายหลังการปรับ ครม.อย่างน้อย 3 รอบ

รวมไปถึงกลุ่มที่เป็น “พี่เพื่อนน้อง” ทั้งหลาย

แต่มิใช่ผู้ถูกกระทำอย่างนายสมชัยแน่นอน

ภารกิจ “เสร็จนาฆ่าโคถึก”

จะตามมาด้วยภาษิต “โคถึกน้อย ไม่กลัว(บูรพา) พยัคฆ์” หรือไม่

ต้องติดตามกันอย่าได้กะพริบตา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image