จากจดหมายลาตายเด็กม.1!! จิตแพทย์วัยรุ่นแนะเลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้ตายทั้งเป็น

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์น่าสลดใจยิ่ง เมื่อเด็กชายชั้นม.1 ตัดสินผูกคอตาย ซึ่งยังน่าสนใจว่าในจดหมายลาตายนั้น เด็กคนดังกล่าวได้อธิบายถึงความสิ้นหวังของชีวิตในทุกด้าน

“ทำไมมีแต่คนด่า คนตี เหมือนผมไม่มีหัวใจ ทุกวันนี้มีแต่ความกลัว กลัวทุกวัน ผมมีจิตใจเหมือนกัน แต่ไม่มีใครสนใจ ครูในโรงเรียนก็ตีแรงจนไม้หัก ทำไมทำกับเด็กอย่างนี้อะ ผมไม่เข้าใจ สมัยแบบนี้ตายดีกว่าไหม ผมกลัวมากๆ ทำไรก็ไม่ถูก พยายามคิดทุกวันว่าอย่าฆ่าตัวตาย แต่ทำใจไม่ไหวแล้ว เจ็บมากๆ วันนี้ขอลาก่อนนะ”

“เกลียดทุกคนยกเว้นเพื่อนรัก”

ขณะที่พ่อเด็กก็เล่าถึงประวัติลูกชายด้วยหัวใจสลายว่า เป็นเด็กเรียนไม่ค่อยดี ติด ร เกือบสิบตัว แต่ไม่เกเร ไปโรงเรียนทุกวัน ช่วยงานบ้านที่บ้าน

Advertisement

เรื่องนี้ จิตแพทย์วัยรุ่น อย่างคุณหมอโอ๋ – พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้อธิบายถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เรียนรู้ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ’เลี้ยงลูกนอกบ้าน’

“การสอนด้วยความรุนแรงสร้างอะไร…สมองของมนุษย์เมื่ออยู่ในภาวะคับขัน ตึงเครียด หวาดกลัว จะตอบสนองโดยใช้สมองส่วนสัญชาติญาณ ที่จะออกมาเพียง 3 รูปแบบเท่านั้น

  1. “สู้” เด็กหลายคนจึงพัฒนามาเป็นคนก้าวร้าว รุนแรง ใช้อารมณ์ และหลายรายก็กลายร่างมาเป็น “อาชญากร” แม้ในวัยเยาว์
  2. “หนี” เด็กหลายคนจึงหลบเลี่ยงความผิด โกหก และหลีกเลี่ยงการเผชิญสิ่งใหม่ๆ เพราะไม่อยากผิดพลาด “ฉันทำไม่ได้” “ฉันไม่ได้เรื่อง” ซึ่งต่อมามีผลกับการพัฒนาโรควิตกกังวล ซึมเศร้าในผู้ใหญ่
  3. “ยอม” เด็กหลายคนเหมือนจะว่าง่าย เพราะทำตามด้วยความกลัวไม้เรียว แต่ลึกๆ จะพัฒนาความรู้สึก “ฉันสู้เค้าไม่ได้” “ฉันมันไม่ดีพอ” พัฒนาความนับถือตัวเองที่ต่ำ ไปจนถึงวันที่รู้สึกว่า “ฉันไม่เคยมีตัวตน”

“การไร้ตัวตน” ที่ทำให้หลายคนพยายามแสวงหาการยอมรับ แม้ในรูปแบบที่เลวร้าย ไปจนถึงในบางคน การไร้ตัวตน ก็นำไปสู่ “การไม่อยากมีตัวตน” อีกต่อไป

 

**การเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่ง สิ่งสำคัญคือการทำให้รู้ว่าเด็ก “มีตัวตน”

การมีตัวตน คือการรับรู้ว่าตัวเองมีคุณค่า และมีความหมาย จากสายสัมพันธ์ที่มั่นคง

การถูกยอมรับ ในสิ่งที่เป็นตัวเอง ที่เป็นทั้งข้อดีและข้อบกพร่อง

การเลี้ยงดู ที่นำไปสู่ “การนับถือตัวเอง”

 

**การเรียนไม่ดี ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะไม่ใช่เด็กทุกคนจะเกิดมาเพื่อเรียนดี…

แต่เด็กทุกคน ควรถูกมองเห็นและพัฒนา “จากสิ่งที่เป็นข้อดี”

 

**การตี มักไม่ได้แก้ปัญหาอะไร แต่การมองหาที่มาของปัญหาและแก้ไข จะช่วยชีวิตเด็กไทยอีกหลายๆคน ไม่ให้ทั้งตายจากไปและตายทั้งเป็น

#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วยนะคะ

พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image