เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มีนาคม ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ถูกส่งตัวกลับทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดขอนแก่น ภายหลังจากมาขึ้นศาลมณฑลทหารบก เรื่อง ข้อหา ฝ่าฝืนและร่วมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2558 ข้อ 12 เหตุเกิดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2558 ที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเป็นการนัดสืบพยานโจทก์ปาก พ.ต.อ.พิสิฐ หลวงเทพ พนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นพยานโจทก์ปากสุดท้าย ซึ่งภายหลังจากสืบพยานโจทก์ปากสุดท้ายเรียบร้อย ไผ่ก็ถูกส่งตัวกลับ
โดยมีรถจากเรือนจำพิเศษจังหวัดขอนแก่นมาคอยรับ เมื่อไผ่เดินมาขึ้นรถ นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา และนางพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของไผ่ได้รีบเดินมาส่ง พร้อมเข้าโอบกอดลูกทันที พร้อมพูดให้กำลังใจ และยังมีประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ คอยส่งเสียงให้กำลังใจไผ่ตลอดเวลา ซึ่งไผ่ก็ได้พูดคุยกับพ่อและแม่สักพัก ก่อนจะเดินขึ้นรถ โดยช่วงพูดคุยก่อนขึ้นรถไผ่มีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา
นายอานนท์ นำภา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการสืบพนักงานสอบสวนเป็นปากสุดท้ายของฝ่ายโจทก์ มาเบิกความว่ามีการคัดค้านรัฐประหารของไผ่ ดาวดิน พร้อมพวก 7 คน ในวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2558 จริง และเบิกความต่อทนายจำเลย ซึ่งถามค้านในประเด็นเกี่ยวกับการรัฐประหาร ซึ่งก็น่าสนใจว่า ทางพนักงานสอบสวนเบิกความค่อนข้างดี การคัดค้านรัฐประหารเป็นการกระทำที่มีเหตุมีผล แต่มันมีกฎหมายที่ห้ามคัดค้านเกิน 5 คนเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการบังคับใช้กฎหมายพนักงานสอบสวนก็ยังยอมรับเองว่า การบังคับใช้กฎหมายที่ต้องขออนุญาตคัดค้านการรัฐประหารก่อน เป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างประหลาด รวมทั้งการปรับทัศนคติด้วย ที่พนักงานสอบสวนกล่าวว่า จริงๆ แล้วไผ่ไม่ควรที่จะถูกปรับทัศนคติ คนที่ควรจะถูกปรับทัศนคติคือผู้ที่สนับสนุนรัฐประหาร ซึ่งน่าสนใจในการพิจารณา ซึ่งการสอบสวนเบิกความค่อนข้างตรงกับที่ไผ่เรียกร้องมาตลอดกับการขับเคลื่อนรัฐประหาร
ส่วนนัดหน้าจะเป็นการสืบพยานจำเลยปากแรกของคดีนี้ ซึ่งไผ่จะขึ้นเบิกความเป็นพยานเองเป็นปากแรก ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 เวลา 09.00 น. ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร และวันจันทร์ที่ 26 มีนาคมนี้ ไผ่จะถูกเบิกตัวไปที่ศาลจังหวัดภูเขียว เพื่อไปฟังคำพิพากษาคดีประชามติในวันที่ 29 มีนาคม แล้วก็จะถูกส่งกลับมาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อมาขึ้นศาลวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ต่อไป
