“บิ๊กป้อม”ถกมาตรการปลอดภัยช่วงสงกรานต์ อนุโลมนั่งท้ายกระบะได้ เมาขับเจอยึดรถ

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวก่อนการประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2561 ว่า วันนี้ที่ประชุมจะมีการพูดถึงมาตรการการป้องกัน และการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ และความปลอดภัยทั่วไปว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความสูญเสีย ส่วนที่นายกฯระบุว่า ไม่อยากใช้สถิติเป็นตัวชี้วัดนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องพิเศษ แต่เป็นเจตนาที่ไม่ต้องการให้มีคนบาดเจ็บ หรือล้มตายเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ถ้ายังมีการเสียชีวิตอยู่ก็ยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ

เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบคนขับรถโดยสารอย่างไรไม่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับกรณีอุบัติเหตุ 18 ศพ ที่จ.นครราชสีมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราไม่ทราบว่ากินยาบ้ามา จะทำอย่างไรได้ แต่เรื่องนี้มีการตรวจสอบกันอยู่แล้ว เพราะการทำใบขับขี่ 3 ปีก็ต่อครั้งหนึ่ง
เมื่อถามถึงกรณีรถบัส 2 ชั้น ว่าจะมีมาตรการเรื่องนี้เข้มข้นขึ้นหรือไม่อย่างไร แล้วเป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่ให้นำมาใช้แล้ว พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า จะไม่ให้ใช้รถบัส 2 ชั้นทั้งหมดเลยหรือ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ให้ต่อทะเบียน หรือตีทะเบียนเพิ่มเติมแล้วตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นมา ซึ่งสภาพต่างๆไม่ได้มาตรฐาน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมก็กำลังดำเนินการในการปรับปรุงให้มีความแข็งแรงขึ้น ส่วนรถบขส.นั้น ก็กำลังเร่งพิจารณาว่า จะทำอย่างไรให้ปลอดภัยกับประชาชนที่ใช้รถมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจจะมีรถ 2 ชั้นอยู่ แต่ที่ไม่ได้มาตรฐานก็ปลดไป และถ้าไม่ได้มาตรฐานก็จะไม่ให้วิ่ง

เมื่อถามถึงมาตรการห้ามนั่งท้ายรถกระบะ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่ให้นั่งท้าย อนุโลมให้นั่งท้ายในที่ปลอดภัย อย่าไปนั่งตรงขอบรถกระบะ ผู้ขับก็ควรขับโดยใช้ความเร็วน้อยๆ เจ้าหน้าที่ก็จะดูแลเรื่องนี้ ส่วนการคาดเข็มขัดนิรภัยนั้น ขอให้ประชาชนคาดเข็มขัด เพราะการคาดเข็มขัดจะช่วยรักษาชีวิตให้ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบอยู่ แต่อาจจะตรวจสอบทั้งหมดไม่ได้ เพราะเขานั่งอยู่ในรถ

เมื่อถึงมาตรการ 10 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอนนี้เราวางมาตรการอยู่แล้ว อย่างวันนี้มีการเรียกประชุม ไม่ต้องห่วง พยายามที่จะไม่ให้มีผู้เสียชีวิต แต่ประชาชนก็ต้องช่วยตัวเองด้วย ทั้งในการขับรถ หรือการใช้ถนน รวมถึงเรื่องการดูแลความเร็ว อย่ากินยาบ้า เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และทำให้ทางราชการเสียหายไปด้วย เกิดจากคนๆเดียว ขณะเดียวกันยังคงมีมาตรการยึดรถเหมือนเดิม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image