เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ กล่าวถึงกรณีที่มีการโยงทางการเมืองว่า บริษัทเป็นนายทุนใหม่ให้กับกลุ่มพรรคการเมืองใหม่ โดยมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้ก่อตั้งบริษัทและนายอนุทิน ชาญวีรกูล บุตรชายและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อยู่เบื้องหลัง ว่า ปัจจุบันนายชวรัตน์ และนายอนุทิน อยู่ในฐานะผู้ถือหุ้น ทั้งสองท่าน เกษียณตัวเองไปนานแล้ว ไม่ได้เข้ามายุ่งกับการบริหารงานนานแล้ว แม้แต่นายอนุทิน ได้วางมือจากการบริหารงานในบริษัทมานานกว่า 10 ปี การนำการเมืองมาโยงกับการทำงานของบริษัท ตนมองว่าผู้ที่กล่าวหาไม่เป็นสุภาพบุรุษ และไม่เป็นธรรมกับคนที่ทำงาน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าบริษัท ซิโน-ไทยฯเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลในการบริหาร นอกจากนั้น ฟอกเงินจากโครงการที่มีมูลค่าเพียง 8,000 กว่าล้านบาท ไปฟอกเงินจำนวน 40,000 ล้านบาทนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ รวมทั้งโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่มีมูลค่างานประมาณ 12,000 กว่าล้านบาทเท่านั้นจะไปฟอกอย่างไรให้เป็น 40,000 ล้านบาท คนที่โจมตีเรื่องนี้มาจากการมโนหรือคิดเอาเองโดยไม่สุจริตใจและหวังผลทางการเมือง โดยไม่ยึดหลักความเป็นจริงแต่อย่างใด หากพบว่ามีผลกระทบกับบริษัทจะมอบหมายให้ฝ่ายกฏหมายตรวจสอบและดำเนินการทางกฏหมายกับคนที่ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
นายภาคภูมิ กล่าวว่า บริษัทรับงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ปี 2556 เป็นการก่อสร้างอาคารความสูง 11 ชั้นพื้นที่ 400,000 ตารางเมตร มีระยะเวลาก่อสร้างรวม 900 วัน แต่ที่ผ่านมาการก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้า ปัญหาอยู่ตรงนี้คือการส่งมอบพื้นที่ของสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ไม่เป็นไปตามสัญญาที่กำหนดไว้ จากเดิมต้องส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดปี 2557 แต่เลื่อนมาเป็นปี 2559 หรือล่าช้ากว่ากำหนดนานเกินกว่า 2 ปี จากสัญญา แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาใหม่ รวมทั้งจะเร่งดำเนินการก่อสร้างอาคารบางส่วนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้เพื่อให้ข้าราชการและสมาชิกสภาได้เข้ามาทำงาน บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าปัญหาการก่อสร้างจะไม่ทำให้การก่อสร้างล่าช้าอีกแม้จะไม่มีกำไร ทั้งนี้จากการประเมินบริษัทซิโน-ไทยฯขาดทุนจากการดำเนินการก่อสร้างโครงการมูลค่าประมาน 3,000 ล้านตรงนี้คงมีการหารือกับทางรัฐสภาว่าจะชดเชยให้บริษัทได้มากแค่ไหน
ด้านนายพีระ นาควิมล ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ กล่าวว่า บริษัทจะดำเนินการตามสัญญาที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับแบบหรือเปลี่ยนแปลงใดๆยังก่อสร้างตามแผนงานที่เซ็นกันไว้ปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าเกินกว่าร้อยละ 50 ของงานทั้งหมด สิ้นปี 2561 พร้อมส่งมอบพื้นที่บางส่วนให้กับสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา นอกจากนี้ในส่วนของโครงการไอซีที ที่มีมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาทนั้น ขอยืนยันว่าทางซิโน-ไทย ไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่า หากไม่มีอุปสรรค มั่นใจว่าปลายปี 2562 จะส่งมอบอาคารทั้งหมดให้กับรัฐสภาได้อย่างแน่นอน
