เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 26 มีนาคม ที่ท่าเทียบเรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามนำคณะลงเรือล่องไปตามแม่น้ำแม่กลอง เพื่อสำรวจจุดที่คาดว่าเป็นสถานที่เกิดของแฝดสยามอิน-จัน บริเวณปากคลองบางเรือหัก ติดวัดประทุมคณาวาส เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เพื่อเตรียมจัดงานคืนถิ่นแฝดสยามอิน-จัน ระหว่างวันที่ 10-12 พฤษภาคม 2561 ที่อนุสรณ์สถานแฝดสยามอิน-จัน ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อรำลึกถึงแฝดสยามอิน-จัน และเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมฉลองครบรอบ 200 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐ ในปี 2561 ซึ่งจังหวัดสมุทรสงครามเห็นว่า เป็นประโยชน์และสมควรร่วมมือกับกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ในการดำเนินโครงการกระชับความสัมพันธ์ภาคประชาชนไทย-สหรัฐ เมืองเมาท์แอรี่(Mount Airy)ผ่านเรื่องราวของแฝดสยามอิน-จัน รวมถึงความร่วมมือกับกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ในการจัดโครงการครอบครัวบังเกอร์(Bunker) คืนถิ่นบรรพบุรุษแฝดสยามอิน-จัน
นายคันฉัตร กล่าวว่า แฝดสยามอินจันถือเป็นคู่แฝดที่รู้จักกันไปทั่วโลก เนื่องจากมีลำตัวติดกันและใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ที่สำคัญยังมีทายาทสืบสกุลมาจนปัจจุบันมากมาย และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐอย่างแนบแน่น โดยแฝดอินจันเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2354 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม บิดาชื่อนายที ชาวจีนอพยพ กับมารดาชาวไทยชื่อนางนาก กระทั่งเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2417 จันผู้น้องป่วยเสียชีวิตลงก่อน จากนั้น 2 ชั่วโมง อินผู้พี่ก็เสียชีวิตตามไป ลูกหลานเหลนสืบทายาทจนปัจจุบันกว่า 4,000 คน ซึ่งใช้นามสกุลบังเกอร์(Bunker) ทุกปีทายาทของแฝดอินจันจะจัดงาน”วันรวมญาติทายาทแฝดอินจัน”ทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษคืออิน-จันที่เมืองเมท์แอรี รัฐนอร์ทแคไรไลนา ซึ่งอินและจันใช้ชีวิตมากว่า 30 ปี 
“จังหวัดกำหนดจัดงานคืนถิ่นแฝดสยามอิน-จัน ระหว่างวันที่ 10-12 พฤษภาคม 2561 โดยเฉพาะในวันที่ 10 พฤษภาคม เวลา 14.30น. คณะ Bunker จากสหรัฐอเมริกาเดินทางมาถึงบ้านอัมพวารีสอร์ทแอนด์สปา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จากนั้นเวลา 16.00น. กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ “ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ภาคประชาชน ไทยสหรัฐฯ(เมืองเมาท์ แอรี่) ผ่านเรื่องราวแฝดสยาม “อิน-จัน” ระหว่างจังหวัดสมุทรสงครามและหน่วยงานท้องถิ่น ทายาทแฝดอินจัน และผู้แทนเมืองเมาท์ แอรี่ จากนั้นเวลา 18.00น. เริ่มกิจกรรม Welcome Dinner พร้อมชมการแสดงโขนเด็กบ้านดอนจั่น และการบรรเลงดนตรีไทยและเพลงที่เกี่ยวกับจังหวัดสมุทรสงคราม” นายคันฉัตร กล่าวและว่า 
ส่วนวันที่ 11 พฤษภาคม เวลา 8.00น. คณะ Bunker จะเดินทางถึงอนุสรณ์สถานแฝดอิน-จัน เพื่อร่วมพิธีสงฆ์ ก่อนเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น จุดที่คาดว่าเป็นสถานที่เกิดของแฝดสยามอิน-จัน บริเวณปากคลองบางเรือหัก ติดวัดประทุมคณาวาส, มูลนิธิชัยพัฒนา ชมเตาตาลมะพร้าว การสาธิตทำน้ำตาลมะพร้าว เยี่ยมลุงสงัด ใจพรม ผู้ปั้นอนุสาวรีย์แฝดอินจัน, เยี่ยมสวนมะพร้าว ที่สวนกำนัน ต.ยายแพง อ.บางคนที ชมวิธีการเก็บปอก และกระเทาะเปลือก, เยี่ยมชมปิ่นสุวรรณเบญจรงค์ ชมสวนผลไม้ วิธีผลิตน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ต.บางนกแขวก อ.บางคนที ชมการสาธิตศิลปวัฒนธรรมภายในอุทยาน ร.2 เยี่ยมวัดอัมพวันเจติยาราม ภาคค่ำล่องเรือไปตลาดน้ำอัมพวา ชมหิ่งห้อยและวิถีชีวิตคลองอัมพวา และในวัน 12 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 9.00น. คณะBunkerจะเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะในตลาดน้ำบางน้อย ชมวัตถุโบราณใต้น้ำและวิถีชีวิตชุมชนชาวจีนในจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งกำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม 
