“ศธจ.กาญจน์”มอบนิติกรหอบหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีร.ร.เอกชนดังทุจริตเบิกเงินอุดหนุน

จากกรณีที่ นายอนันต์ กัลปะ ผอ.ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงกรณีได้รับแจ้งเบาะแสว่า โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี มีพฤติกรรมการทุจริต ด้วยการนำรายชื่อเด็กระดับชั้นอนุบาล-ชั้นประถม ทั้งที่ไม่มีตัวตน และแก้ไข พ.ศ.เกิดของเด็กยังไม่ถึงเกณฑ์เรียน มาเบิกเงินรายหัวที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จนกระทั่งพบว่า มีมูลการกระทำความผิดทุจริตเบิกจ่ายเงินอุดหนุนรายบุคคล จำนวน 24 ราย โดยแบ่งเป็นกรณีที่มีการแก้ไข พ.ศ.เกิด จำนวน 6 ราย โดยเด็กทั้งหมดยังไม่ได้เข้าเรียน เพราะอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ซึ่งบางคนอายุเพียง 1-2 ขวบเท่านั้น ส่วนอีก 18 ราย เป็นกรณีของรายชื่อซ้ำซ้อนและนำไปแก้ พ.ศ.เกิด อีกทั้งเด็กทั้ง 18 ราย ไม่มีรายชื่อเรียนในโรงเรียนเอกชน แต่ทั้งหมดมีชื่ออยู่ตามศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของเทศบาลต่างๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอท่าม่วง นอกจากนี้ยังพบอีก 3 ราย ที่เบื้องต้นพบว่า เด็กทั้ง 3 คนไม่มีตัวตนอยู่ในโรงเรียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ 28 มี.ค.61 นายอนันต์ กัลปะ ผอ.ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้ นายโอภาส ต้นทอง รองศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายอังกูร จินจารักษ์ นักทรัพยากรบุคคล ทำหน้าที่นิติกรประจำสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อนำหลักฐานเอกสารเกี่ยวข้องกับการทุจริต เข้าพบ พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง ร.ต.อ.จุมพล เหลืองเอี่ยม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าม่วง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในคดีอาญาแล้ว ซึ่งขณะนี้ พ.ต.อ.สุชาย รวมทั้ง ร.ต.อ.จุมพล กำลังสอบถามข้อมูลข้อเท็จจริงกับคณะเจ้าหน้าที่ที่ไปแจ้งความถึงรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งร่วมกันตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ที่นำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนอย่างละเอียด
นายอนันต์ เปิดเผยว่า ก่อนจะมอบหมายให้นิติกรเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับโรงเรียนเอกชนในวันนี้ ตนได้รายงานให้ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.พะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) นายชลำ อรรถธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และ นายรังสรรค์ อ้วนวิจิตร ศึกษาธิการภาค 4 ทราบแล้ว และผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสนใจกับคดีดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรีดำเนินการหาหลักฐานอย่างละเอียดและรอบคอบรัดกุม อีกทั้งจะต้องให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทางโรงเรียนเอกชนด้วย

นายอนันต์กล่าวว่า สำหรับหลักฐานที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีมูลการกระทำความผิดทุจริตเบิกจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวเด็ก จำนวน 24 ราย ซึ่งเด็กทั้ง 24 รายนั้น เป็นเด็กที่ถูกแก้ไข พ.ศ.เกิด และกำลังจะได้รับเงินสนับสนุนรายหัวของเดือนมีนาคมนี้ รวมกันเป็นเงินจำนวน 20,176.83 บาท แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงได้สั่งการไปยังฝ่ายการเงินให้ชะลอการจ่ายเงินออกไปก่อน และหลังจากนี้คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมา จะร่วมกันตรวจสอบย้อนลังว่าโรงเรียนดังกล่าวเคยดำเนินการเปลี่ยน พ.ศ.เกิดของเด็กมานานแล้วแค่ไหน และเมื่อผลการตรวจสอบสรุปออกมาแล้วก็จะถูกฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินที่รัฐเสียหายกลับคืนมาทั้งหมด โดยจะต้องจ่ายคืนแก่รัฐเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับ สช.ร้อยละ 7.5 ต่อปี ด้วย

สำหรับผู้ที่จะถูกฟ้องดำเนินคดีอาญา ประกอบด้วย ผู้จัดการโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้ได้รับอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน รวม 3 ราย และนอกจากนี้ หากมีหลักฐานเพิ่มเติมว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี จะเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายให้ถึงที่สุด ไม่ละเว้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image