| ที่มา | มติชนรายวัน หน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
พออายุมากขึ้น สิ่งที่ต้องดูแลและให้ความสำคัญก็มักจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพของดวงตา ที่นับว่าเป็นอวัยวะสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพการใช้ชีวิตในแต่ละวัน และปัญหาที่เลี่ยงได้ยากสำหรับวัย 40 ปีขึ้นไปคือ “ปัญหาสายตาพร่ามัวเวลามองใกล้” หรือ “ปัญหาสายตายาว” ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องสายตาสั้นอยู่แล้ว และยังต้องประสบปัญหาสายตายาวเมื่ออายุเพิ่มขึ้นอีก
โดยในปัจจุบัน “แว่นตาโปรเกรสซีฟ” ได้เข้ามาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีปัญหาทั้งสายตาสั้นและสายตายาว
ชนิตา ตันเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบแว่นตาโปรเกรสซีฟจาก Chic Optical กล่าวว่า แว่นตาโปรเกรสซีฟมีข้อดีคือใช้งานง่าย สามารถมองได้ชัดทั้งในระยะไกลและใกล้ รวมทั้งช่วยชะลอให้สายตาไม่ยาวเพิ่มขึ้น ส่วนข้อจำกัดคือ ต้องฝึกการมองผ่านแว่นให้ถูกระยะ เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนตามที่ต้องการ โดยเมื่อมองไประยะไกลให้มองตรงส่วนบนของเลนส์เป็นปกติ และเมื่อมองใกล้ ให้เหลือบตาลงมองด้านล่างของเลนส์
ส่วนกรณีเมื่อใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟแล้วรู้สึกไม่สบายตา อาจเป็นเพราะเลือกแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ไม่เหมาะกับสายตาของผู้ใช้ จึงมีข้อควรรู้ก่อนเลือกแว่นตาดังนี้
1.รู้จักระดับค่าสายตาของตัวเอง เพื่อการวัดค่าสายตาในเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงขนาดรูม่านตา ลักษณะระดับการมอง การเหลือบตามองไกล-ใกล้ ตลอดจนนิสัยการอ่านหนังสือ เพื่อตรวจหาตาข้างที่ถนัด
2.เลือกรูปแบบแว่นตาที่เหมาะสม เช่น การเลือกรูปทรงของกรอบแว่นหรือตำแหน่งของแป้นจมูก ขนาดความกว้าง เพื่อภาพลักษณ์และความสบายขณะสวมใส่
3.สังเกตพฤติกรรมการใช้สายตาว่ามีลักษณะใด เช่น อายุ สุขภาพ และโรคประจำตัว
4.วัดค่าพารามิเตอร์ของเลนส์ให้แม่นยำ เพราะค่าพารามิเตอร์คือตำแหน่งของแว่นตาเมื่อถูกสวมใส่บนหน้าของตัวคุณเอง
5.ปรับแต่งแว่นตาให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น ความเอียงของหน้าแว่นและความโค้งของกรอบแว่นจะต้องอยู่ในมุมที่ถูกต้องตามที่ได้ออกแบบเลนส์ไว้ทั้งหมด
เพราะ “แว่นตา” เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อผู้ที่มีปัญหาทางสายตา การเลือกแว่นตาให้เหมาะสมจะช่วยให้มองชัดและสบายตา ตลอดจนช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้นอีกด้วย
