เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ฟื้นฟูด่านกักกันสัตว์ นครพนม ได้มีการรับสนุข จากพื้นที่เกิดโรคพิษสุนัขบ้าระบาด ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 130 ตัว รวมถึง พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 50 ตัว มาดูแลเพิ่ม หลังจากมีการรับสุนัขจากพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ที่เกิดปัญหา โรคพิษสุนัขบ้าระบาด ตั้งแต่เดือน มกราคม 2561 จำนวนกว่า 3,000 ตัว มาดูแล ฟื้นฟู เฝ้าระวังการแพร่ระบาด เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประกาศพื้นที่โรคระบาด ในหลายจังหวัดของพื้นที่ ภาคอีสาน ทำให้ มีการจับสุนัข ในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร มีดูแลบริเวณ ควบคุมการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ทำให้มีการนำมาดูที่ศูนย์ฟื้นฟูด่านกักกันสัตว์นครพนม ที่มีความพร้อม ในการดูแล
ล่าสุดทางด้าน นายณรงค์ รัตนตรัยวงศ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนม ยังระดมเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ เข้าไปดูแล ฉีดวัคซีน ตรวจสอบ คัดแยก สุนัขกลุ่มเสี่ยง เพื่อดูอาการ รวมถึงมีการฉีดวัคซีนให้ครบทุกตัว และในส่วนของสุนัขที่ป่วยตาย ได้มีการสุ่มเก็บตัวอย่าง ไปตรวจพิสูจน์ ที่กรมปศุสัตว์ เพื่อตรวจหาเชื้อ วางแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด แต่ยังไม่เคยพบว่า มีสุนัขตัวไหนติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
โดยปัจจุบันมีสุนัขที่อยู่ในการดูแล จำนวน ประมาณ 1,400 ตัว แต่ยังมีปัญหาเรื่องสุนัขป่วย รวมกว่า 200 – 300 ตัว และมีสุนัขป่วยตาย ต่อเนื่องรายวัน เพราะมีปัญหาโรคลำไส้อักเสพ รวมถึงไข้หัด และบาดเจ็บจากการขนย้าย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการดูแลรักษาต่อเนื่อง ส่วนเรื่องอาหารและการดูแล เพียงพอ ยืนยันไม่กระทบ จะต้องมีการดูแล เลี้ยงดูต่อเนื่อง จนกว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้
ขณะเดียวกันทางด้าน ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ได้ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 12 อำเภอ ออกหน่วยเคลื่อนที่ บริการตรวจรักษา ให้คำปรึกษา ชาวบ้าน ในการดูแลป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และมีการบริการฉีดวัคซีน สุนัข และมีการประชาสัมพันธ์ หลังพื้นที่ จ.นครพนม มีการประกาศเป็นเขตโรคพิษสุนัขบ้าระบาดชั่วคราวไป แล้ว 1 อำเภอ จากพื้นที่ ทั้งหมด 12 อำเภอ คือ อ.นาแก แจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ ให้หมั่นตรวจสอบดูแล และนำสุนัข ไปฉีดวัคซีน ที่ปศุสัตว์ใกล้ บ้าน หรือพบสุนัข มีอาการป่วยผิดปกติ ให้ปรึกษาสัตวแพทย์ ทันที เนื่องจากปีนี้เริ่มมีปัญหาเกิดโรคระบาดในพื้นที่ภาคอีสาน จึงต้องมีการเฝ้าระวังเข้มงวด
