กรมศุลผนึกการท่าเรือตรวจปล่อยสินค้าขาออกให้เร็วขึ้น

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามกับเรือตรีทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายวิศวกรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ในสัญญาประกันทัณฑ์บน พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต และรับบรรทุกที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ระหว่างกรมศุลกากรและการท่าเรือแห่งประเทศไทย

นายกุลิศ กล่าวว่า กรมศุลกากรออกประกาศกรมศุลกากร ที่ 37/2561 เรื่อง พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต และรับบรรทุกที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้จัดทำโครงการท่าเทียบเรือชายฝั่ง 20G ท่าเรือกรุงเทพ (Bangkok Port Coastal Terminal Optimizing Your Business) เพื่อสนับสนุนการขนส่งทางน้ำภายในประเทศ ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ ลดปริมาณการจราจรทางบก และเพิ่มขีดความสามารถด้านการส่งออกของประเทศ

นายกุลิศ กล่าวว่า พิธีการศุลกากรส่งออกว่าด้วยการตรวจปล่อยสินค้าขาออกในเขตพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เพื่อบรรทุกลงเรือเฉพาะเขต และรับบรรทุกที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการพิธีการศุลกากรส่งออก จากเดิมที่จะทำการตรวจปล่อย ณ ท่าท้ายสุดที่ระบุไว้ว่าจะส่งของออกนอกราชอาณาจักร เป็นการตรวจปล่อยให้เสร็จสิ้น ณ ท่าต้นทางที่มีพนักงานศุลกากรปฏิบัติหน้าที่ประจำและมีความพร้อมในการตรวจสอบสินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ โดยปฏิบัติพิธีการศุลกากรขาออก ตรวจปล่อยสินค้าให้เสร็จสิ้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ บรรทุกลงเรือเฉพาะเขตและรับบรรทุก ณ ท่าท้ายสุดที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งการขนส่งสินค้าด้วยเรือเฉพาะเขตมีความปลอดภัยสูง ขนส่งได้ปริมาณมาก ขนส่งสินค้าได้ตามเวลาที่กำหนด ลดต้นทุนการขนส่งแทนการใช้รถบรรทุก ลดปัญหาจราจรทางบก

นายกุลิศ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินพิธีการศุลกากรส่งออกในรูปแบบนี้ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในระบบโลจิสติกส์ได้ไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านบาทต่อปี และยังเป็นการลดปริมาณการใช้พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยลดปริมาณการใช้น้ำมันได้ไม่น้อยกว่า7.4 ล้านลิตรต่อปี ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไม่น้อยกว่า 26.7 ล้านตันคาร์บอนต่อปี อีกทั้งสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี และจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้บริการ หากท่าเอกชนในกำกับดูแลภายใต้สำนักงานศุลกากรกรุงเทพเปิดดำเนินการในลักษณะเดียวกัน คาดว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจจะเพิ่มสูงขึ้น

Advertisement

“กระบวนการทางศุลกากรจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ ช่วยลดระยะเวลา ลดค่าใช้จ่าย ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์และการค้าระหว่างประเทศ อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสอดคล้องกับบทบัญญัติตามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า ภายใต้องค์การการค้าโลก”นายกุลิศ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image