ย้อนกลับไปราว 4 ปีก่อนทัพนักเตะ “ชบาแก้ว” ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2015 ที่ประเทศแคนาดา ด้วยการคว้าอันดับ 5 จากศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2014 หลังเฉือนชนะคู่ปรับย่านอาเซียนอย่าง เวียดนาม ถึงถิ่น 2-1 ในการเพลย์ออฟชิงอันดับ 5 พร้อมคว้าตั๋วใบสุดท้ายสำเร็จ
เมื่อเวลาผ่านไปเส้นทางสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของทัพชบาแก้วเดินทางกลับมาเริ่มต้นอีกครั้งในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2018 ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน ช่วงวันที่ 6-20 เมษายน โดยจะคัด 5 ทีม ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส ช่วงวันที่ 7 มิถุนายน-7 กรกฏาคม ในปีหน้าต่อไป
ทีมแข้งสาวไทยอยู่ในสายเอร่วมกับ “เจ้าภาพ” จอร์แดน, จีน และฟิลิปปินส์ ขณะที่สายบี ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และเวียดนาม โดยจะคัดทีมอันดับ 1-2 แต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ พร้อมคว้าตั๋วฟุตบอลโลกทันที ส่วนอันดับ 3 แต่ละกลุ่ม จะต้องเตะเพลย์ออฟชิงอันดับ 5 แย่งชิงตั๋วใบสุดท้าย
ถือว่าการจับสลายแบ่งสายเป็นโชคดีของทีมสาวไทยที่มีเพียงจีนที่เป็นทีมแข็งแกร่งกว่าเพียงทีมเดียวเท่านั้น ส่วน จอร์แดน และฟิลิปปินส์ นั้น ทีมไทยค่อนข้างมีชื่อชั้น และฝีเท้าที่ดีกว่าอยู่พอสมควร แต่การแข่งขันครั้งนี้เดิมพันด้วยตั๋วฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย จึงจะประมาททีมใดไม่ได้เลย…
“โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมสาวไทย ระบุว่า การได้ไปเล่นฟุตบอลโลก เมื่อปี 2015 ทำให้วงการฟุตบอลหญิงไทยเกิดความตื่นตัว และพัฒนาขึ้นอย่างมาก ทำให้ครั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องไปฟุตบอลโลกให้ได้อีกครั้ง เพื่อต่อยอดการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงไทยให้มีความตื่นตัวมาขึ้น
“ครั้งก่อนทีมไทยผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกด้วยการคว้าอันดับ 5 ของเอเชีย แต่ครั้งนี้อยากจะพัฒนาให้ดีกว่าครั้งก่อน และตั้งเป้าหมายว่า จะต้องผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้ เพื่อคว้าตั๋วฟุตบอลโลกทันทีโดยไม่ต้องเพย์ออฟชิงอันดับ 5 ซึ่งเราได้เตรียมทีมกันมานานพอสมควร และได้ศึกษาคู่แข่งทุกทีม เพื่อหวังทำผลงานให้ดีที่สุด” โค้ชหนึ่งกล่าว
ในส่วน “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงไทย ระบุว่า ตัวเองอยู่กับทีมมานานกว่า 9 ปี เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งการแข่งขันรายการนี้ตั้งเป้าว่า ทีมไทยจะต้องเป็น 1 ใน 5 ทีมเอเชีย ไปเล่นฟุตบอลโลก หลังเคยไปฟุตบอลโลก 2015 เป็นครั้งแรกมาแล้ว
“พวกเราทุกคนเราตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความสุขให้คนไทย เราเคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อสี่ปีที่ผ่านมา ปีนี้เราก็คาดหวังว่า จะไปฟุตบอลโลกให้ได้อีกครั้งหนึ่ง ขอกำลังใจจากทุกคนช่วยเชียร์พวกเราในทัวร์นาเมนต์สำคัญนี้ด้วย เราเต็มที่แน่นอน” มาดามแป้งกล่าว
สำหรับการเตรียมทีมสำหรับศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2018 มาดามแป้งได้ส่งนักเตะสาวไทยไปเก็บตัวฝึกซ้อม และลงอุ่นเครื่องที่ประเทศออสเตรเลีย ก่อนที่จะได้เดินทางล่วงหน้าเข้าสู่จอร์แดนก่อนแข่งขัน เพื่อให้นักเตะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ทั้งอากาศ และเวลาท้องถิ่นด้วย
แข้งสาวไทยชุดนี้นำโดย “เนตร” กาญจนา สังข์เงิน ฮีโร่ผู้ยิง 2 ประตูพาทีมตีตั๋วฟุตบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์, “แหม่ม” อรทัย ศรีมะณี นักเตะสาวประวัติศาสตร์ที่เคยยิง 2 ประตูในฟุตซอลหญิงชิงแชมป์โลก 2010 ที่สเปน และยิง 2 ประตูพาทีมชนะ ไอวอรี่ โคสต์ 3-2 สร้างประวัติศาสตร์คว้า 3 แต้มแรก ในฟุตบอลโลก 2015 ที่แคนาดา
ส่วนคนอื่นยังมีทั้ง “ไหม” ธนีกาญจน์ แดงดา กองหน้าผู้เป็นน้องสาวของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย, “น้ำ” รัตติกาล ทองสมบัติ, “หมิว” ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, “ปิ่น” พิกุล เขื่อนเพ็ชร คู่มิดฟิลด์แดนกลาง, “แนนซี่” สุนิสา สร้างไธสง แบ๊กซ้ายกัปตันทีม, “แอน” ดวงนภา ศรีตะลา กองหลัง และ “ทราย” วราภรณ์ บุญสิงห์ นายด่านจอมหนึบ
นอกจากนี้ ยังมีนักเตะดาวรุ่งหน้าใหม่เข้ามาติดทีมถึง 5 คน คือ ณัฐรุจา มุทนาเวช ผู้รักษาประตู, กาญจนาพร แสนคุณ กองหลัง, เสาวลักษณ์ เพ็งงาม ศูนย์หน้า รวมทั้ง “มิรันด้า” สุชาวดี นิลธำรงค์ กองหน้าลูกครึ่งไทย-อเมริกัน และ “มิ้นท์” กัญญาณัฐ เชษฐบุตร นักเตะอายุน้อยที่สุดในทีมวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น
ทีมแข้งสาวไทยเคยฝากผลงานในฟุตบอลโลก 2015 ที่ประเทศแคนาดา ด้วยการเก็บ 3 แต้มแรกในประวัติศาสตร์จากการเฉือนชนะ ไอวอรี่ โคสต์ 3-2 อีกทั้งยังต่อกรกับทีมดีกรีแชมป์โลกอย่าง เยอรมนี และนอร์เวย์ ได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้วงการฟุตบอลหญิงไทยเกิดความตื่นตัว และมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี
4 ปีผ่านไปทีมแข้งสาวไทยเริ่มมีนักเตะดาวรุ่งก้าวขึ้นมาเสริมทีมให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้ ซึ่งทีมสาวไทยชุดนี้ได้มีการผสมผสานนักเตะที่มีประสบการณ์ รวมกับนักเตะหน้าใหม่ และจากการเตรียมทีมที่เข้มข้น ทำให้ทีมสาวไทยพร้อมแล้วสำหรับเส้นทางไปสู่ฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
เส้นทางไปสู่ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ของทีมฟุตบอลหญิงไทย นอกจากจะเป็นความฝันที่ทุกคนต่างรอคอยแล้ว ยังจะเป็นการช่วยพัฒนาให้วงการฟุตบอลหญิงไทยเกิดการพัฒนาที่ดีอย่างต่อเนื่อง
แต่จะเดินไปถึงจุดหมายได้หรือไม่นั้น คงจะต้องช่วยกันส่งกำลังใจเชียร์ทัพชบาแก้วในศึกชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้…!
