ทางการสหรัฐประกาศคว่ำบาตรชาวรัสเซีย 24 คน ซึ่งเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน นับเป็นการดำเนินการที่ก้าวร้าวที่สุดของสหรัฐต่อรัสเซีย จากข้อกล่าวหาว่ารัสเซียพยายามเข้ามาดำเนินกิจกรรมที่เป็นอันตรายเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา
หลายฝ่ายมองว่ามาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นจากแรงกดดันของสภาคองเกรส ซึ่งผู้ที่ถูกประกาศชื่อ 24 คนภายใต้คำสั่งคว่ำบาตรล่าสุดนี้มีตั้งแต่มหาเศรษฐีนักธุรกิจ ทนายความ ไปจนถึงข้าราชการ ที่ล้วนแต่มีความใกล้ชิดกับปูติน และแม้หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐจะระบุว่าการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดนี้เป็นผลจากความพยายามในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐระบุเพียงว่าสาเหตุหลักมาจากการกระทำอันเป็นปรปักษ์ของรัสเซีย
การประกาศมาตรการคว่ำบาตรนี้ยังมีขึ้นขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียตกอยู่ในสภาพย่ำแย่อย่างหนัก ทั้งหลังจากข้อกล่าวหาว่ารัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจนทำให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดี รวมถึงสถานการณ์ล่าสุดที่สหรัฐได้ขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับอังกฤษต่อข้อกล่าวหาว่ารัสเซียวางยาพิษอดีตสายลับรัสเซียแปรพักตร์ จนรัสเซียได้สั่งขับนักการทูตสหรัฐออกนอกประเทศเป็นการตอบโต้
ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า จะตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดของสหรัฐอย่างหนัก เพราะรัสเซียจะไม่ปล่อยให้การโจมตีเพื่อต่อต้านรัสเซียรอบใหม่ผ่านไปโดยไม่มีคำตอบที่แข็งกร้าวกลับไป พร้อมกับเตือนสหรัฐว่าให้ละทิ้งภาพลวงตาว่าทั้งสองประเทศจะสามารถหารือกันได้แม้จะมีการประกาศมาตรการคว่ำบาตรก็ตาม และว่า การกดดันใดๆ ก็ไม่อาจทำให้รัสเซียเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติ และมาตรการคว่ำบาตรจะยิ่งทำให้สังคมรัสเซียเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น
