‘มิรันด้า’ซัดเบิ้ล!‘ชบาแก้ว’ดาหน้าถล่ม‘จอร์แดน’6-1 ชี้ชะตาตั๋วบอลโลกนัดท้ายบู๊‘ปินส์’

“ชบาแก้ว” นักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ลงสนามนัดที่สอง พบ “เจ้าภาพ” จอร์แดน ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย “เอเอฟซี วีเมนส์ เอเชี่ยน คัพ 2018” สายเอ นัดที่สอง ที่คิง อับดุลลาห์ที่ 2 สเตเดียม กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา โดยผลงานนัดแรก ทีมไทย แพ้ จีน 0-4 ขณะที่ จอร์แดน พลาดท่าพ่าย ฟิลิปปินส์ 1-2 ทำให้ยังไม่มีแต้มด้วยกันทั้งสองทีม

ทีมแข้งสาวไทย อันดับ 30 ของโลก อดีตแชมป์เอเชี่ยน คัพ ปี 1983 ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชหนึ่ง หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ปรับทัพจากนัดแรก 2 ตำแหน่ง โดยส่ง “ปุ๋ย” พิสมัย สอนไสย์ ยืนตำแหน่งมิดฟิลด์แดนกลางแทน “ปิ่น” พิกุล เขื่อนเพ็ชร และส่ง “แหม่ม” อรมัย ศรีมะณี ลงมาเป็นตัวรุกแทน  “น้ำ” รัตติกาล ทองสมบัติ ที่มีอาการป่วยไข้ขึ้นสูง

ส่วนผู้เล่นคนอื่นยังนำโดย ผู้รักษาประตู “ทราย” วราภรณ์ บุญสิงห์, กองหลัง “ตาล” ณัฐกานต์ ชินวงษ์ คู่กับ “แอน” ดวงนภา ศรีตะลา, แบ๊กขวา “แป๋ว” วารุณี เพ็ชรวิเศษ, แบ๊คซ้าย “แนนซี่” สุนิสา สร้างไธสง กัปตันทีม, กองกลาง “หมิว” ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, ริมเส้นขวา “เนตร” กาญจนา สังข์เงิน, ริมเส้นซ้าย “ไหม” ธนีกานต์ แดงดา และกองหน้าตัวเป้า “มิรันด้า” สุชาวดี นิลธำรงค์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกันวัย 21 ปี

Advertisement

ขณะที่ จอร์แดน อันดับ 51 ของโลก ภายใต้การคุมทัพของ ไมเคิ่ล ดิคกีย์ กุนซือชาวอเมริกัน จัดทัพผู้เล่นชุดเดิมลงสนามนำโดย สเตฟานี่ อัลนาเบอร์ มิดฟิลด์กัปตันทีม ทำเกมแดนกลางร่วมกับ ลูน่า รามี่ อัลมาสรี่ และโชรูค คาลิล ชาตลี่ โดยมี เมย์ซ่า เจบาราห์ และชาห์นาซ เจบรีน เป็นคู่ศูนย์หน้าตัวอันตราย ส่วนสถิติที่ ไทย เคยพบ จอร์แดน ตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) รับรอง ปรากฏว่า เคยเจอกันก่อนหน้านี้ 2 นัด โดยทีมไทยคว้าชัยชนะรวดทั้ง 2 นัด

เกมครึ่งแรกเริ่มเพียง 16 วินาที แข้งสาวไทยพังประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 มิรันด้า วิ่งเข้าฉกบอลจากกองหลังจอร์แดนได้แล้วซัดเต็มข้อลอดตัว ซัลมา กาซาล นายด่านเจ้าถิ่น เข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 3 ของมิรันด้าในนามทีมชาติไทย และเป็นประตูแรกของทีมสาวไทยในรายการนี้

Advertisement

นาทีที่ 6 ชบาแก้วขยับหนี 2-0 กาญจนา โยนบอลให้ มิรันด้า โหม่งติดตัวผู้เล่นจอร์แดนไปเข้าทาง ธนีกานต์ ซัดเสียบใต้คาน เกมเข้าสู่นาทีที่ 39 ทีมสาวไทยได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ศิลาวรรณ บรรจงวางเท้าซ้ายปั่นบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงามช่วยให้ทีมไทยหนีห่างเป็น 3-0

จากนั้นนาทีต่อมาทัพชบาแก้วเดินหน้าพังประตูที่ 4 ได้จาก กาญจนา ยิงจังหวะแรกติดเซฟก่อนวิ่งตามเข้าไปซ้ำดาบสองส่งบอลเข้าประตู แต่นาทีที่ 44 จอร์แดน ตีไข่แตกไล่มา 1-4 จาก ชาห์นาซ เจบรีน และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาทีที่ 60 โค้ชหนึ่งปรับผู้เล่นด้วยการส่ง พิกุล ลงมาคุมแดนกลางแทน อรทัย และส่ง “ขวัญ” ขวัญฤดี แสงจันทร์ ลงเล่นแทน ธนีกานต์ จากนั้นจอร์แดนโหมบุกหนักหวังทวงประตูคืน แต่ยังเจาะเกมรับทีมไทยไม่ได้

นาทีที่ 69 ทีมไทยอาศัยเกมโต้กลับยิงทิ้งขาด 5-1 กาญจนา จ่ายบอลให้ มิรันด้า ดึงหลอกหนึ่งจังหวะแล้วซัดเต็มข้อเข้าไปเป็นประตูที่ 2 ของในเกมนี้ นาทีสุดท้ายสาวไทยยิงประตูปิดท้ายได้จากพิสมัม ยิงบอลเช็ดคานเข้าไป จบเกม ทีมไทย ถล่มชนะ จอร์แดน 6-1

ด้านผลอีกคู่ จีน ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 ทำให้จีนคว้าชัย 2 นัด มี 6 แต้มเต็ม ขึ้นนำจ่าฝูง พร้อมกลายเป็นทีมแรกที่คว้าตั๋วไปเป็นฟุตบอลโลกในปีหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ไทย ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 แต้ม เท่ากับ ฟิลิปปินส์ แต่ไทยรั้งอันดับ 2 ด้วยการมีประตูได้เสีย + 1 ส่วน ฟิลิปปินส์ ประตูได้เสีย -2 เป็นอันดับ 3 และจอร์แดน อยู่อันดับสุดท้าย ยังไม่มีแต้ม

สำหรับโปรแกรมนัดสุดท้าย ทีมไทยจะลงสนามชี้ชะตาพบ ฟิลิปปินส์ ที่คิง อับดุลลาห์ที่ 2 สเตเดียม วันที่ 13 เมษายน ตามเวลาไทย 00.00 น. (คืนวันที่ 12 เมษายน) เพื่อหาอีกทีมที่ได้ไปฟุตบอลโลก โดยทีมไทยต้องการแค่ผลเสมอเป็นอย่างน้อยก็จะคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลกทันที ส่วนอีกคู่ จีน พบ จอร์แดน ที่อัมมาน อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม ในเวลาเดียวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image