ยธ.เคาะแผนแก้หนี้นอกระบบทั่วปท. เตรียมทำ Flow chart ใช้เป็นคู่มือแก้ปัญหา

เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำ Flow chart แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนการดำเนินงานและแสดงให้เห็นภาพรวมของการบูรณาการการแก้ไขปัญหานอกระบบ เพื่อใช้เป็นแนวงานของ 27 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาตรการของแต่ละหน่วยงานร่วมกันแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในแนวทางเดียวกัน

นายธวัชชัยกล่าวว่า หนี้นอกระบบถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข หากปล่อยไว้จะบานปลายเป็นภัยคุกคาม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือซึ่งพบว่าชาวบ้านมีปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว บางรายเป็นหนี้ทั้งนอกระบบและในระบบ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ที่กู้เงินส่วนใหญ่ไม่มีใครคิดจะโกง แต่ไม่สามารถนำเงินมาจ่ายคืนเจ้าหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ยได้ บางรายจ่ายได้เพียงไม่นานก็ต้องหยุดชำระหนี้ ทำให้ต้องนำที่ดินทำกิน หรือบ้านพักไปจำนำ จำนอง และขายฝาก ต่อมาไม่สามารถไถ่ถอนคืนได้ จึงทำให้ถูกเจ้าหนี้ยึดทรัพย์สินไม่มีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน กลายเป็นปัญหารุนแรงมากขึ้น

นายธวัชชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมวันนี้เป็นการจัดทำแผนว่าจะแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนได้อย่างไร โดยเฉพาะหนี้นอกระบบที่มีการพิจารณาอาจจะต้องใช้ยาแรง คือ มาตรการทางภาษีเพื่อดำเนินกับเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ เนื่องจากที่ผ่านมามีข้าราชการใหม่ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้เพราะไม่มีความชำนาญและประสบการณ์ ดังนั้นหลังจากจัดทำแผน Flow chart เสร็จสิ้นแล้ว ศูนย์แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะจัดส่งแผนดังกล่าวเพื่อใช้เป็นคู่มือสำหรับในการแก้ปัญหาของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการทั่วประเทศต่อไป

Advertisement

“สำหรับร่างแผนการทำงาน Flow chart ซึ่งจะใช้เป็นกลไกในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เบื้องต้น หลังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับเรื่องไว้แล้วก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนั้นจึงพิจารณาตามลำดับขั้นตอนว่า ความเดือดร้อนของประชาชนอยู่ในระดับไหน เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนการพิจารณาในชั้นศาล หรือไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยในชั้นศาลได้แล้ว หรือหลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว แต่ยังไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหรือยังไกล่เกลี่ยกันได้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังให้ความช่วยเหลือได้อีกหรือไม่ ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้นประชาชนที่เป็นลูกหนี้จะกลายเป็นคนล้มละลาย มีหนี้สินไม่จบสิ้น” รองปลัดกระทรวงยุติธรรมกล่าว

นายธวัชชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการนำช่องว่างของกฎหมายขายฝากมาใช้เป็นเครื่องมือให้ชาวบ้านที่ต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยนำทรัพย์สิน หรือที่ดินที่ตนเองมีอยู่มาเป็นหลักทรัพย์ใช้ค้ำประกัน จึงทำให้ต้องสูญเสียที่ดินให้เจ้าหนี้จำนวนมาก โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรยกเลิกกฎหมายขายฝาก เพราะกฎหมายเกี่ยวกับการจำนอง จำนำ และการเช่าซื้อก็เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอยู่แล้ว แต่หากไม่สามารถยกเลิกกฎหมายขายฝากได้ก็ควรทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเพื่อกำหนดระยะเวลาในการซื้อคืนทรัพย์ให้เหมาะสม และไม่ถูกนายทุนเอาเปรียบ นอกจากนี้ยังต้องการให้ผู้ที่ปล่อยเงินกู้ทุกรายขึ้นทะเบียนโดยมีเลขทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถตรวจสอบประวัติของนายทุนผู้ปล่อยกู้ได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image