ดื่มหนักเมาแล้วขับ ถูกจับช่วงสงกรานต์ ขังทันที 15 วัน ดีเดย์ 13 เม.ย.นี้

เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่กรมคุมประพฤติ นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายประเสริฐ โหล่วประดิษฐ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงดอนเมือง ร่วมกันแถลงข่าวการใช้ “EM” หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์กับคดีเมาแล้วขับ ช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายสราวุธกล่าววว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการประสานงานความร่วมมือระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมและกรมคุมประพฤติ ในการนำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวของสำนักงานศาลยุติธรรมมาใช้กับกลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ เป็นนโยบายของนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา ที่นำมาใช้ดูแลการปล่อยชั่วคราว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในกรณีเมาแล้วขับ เมื่อศาลมีคำสั่งลงโทษและมีเงื่อนไขคุมประพฤติ ก็สามารถนำอุปกรณ์อีเอ็มของสำนักงานศาลมาใช้กับกลุ่มผู้ถูกคุมความประพฤติได้ ซึ่งมีอยู่ 5,000 เครื่อง แต่ยังไม่ทราบตัวเลขของผู้กระทำผิดเมาแล้วขับ หากมีไม่ถึง 5,000 คนก็สามารถใส่อุปกรณ์ติดตามตัวอีเอ็มได้ครบทุกคน ทั้งนี้ จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะนำมาใช้กับกลุ่มผู้ถูกคุมความประพฤติในคดีขับรถขณะเมาสุราช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระยะแรกจะนำร่องในพื้นที่ กทม. ในเขตอำนาจศาลแขวงดอนเมือง และศาลแขวงพระนครเหนือ ในช่วงสงกรานต์นี้ เนื่องจากที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวมีสถิติคดีเมาแล้วขับสูงเป็นอันดับต้นๆ

นายประเสริฐกล่าวว่า ศาลแขวงดอนเมืองได้รับนโยบายนำร่องในการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ในคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจร กรณีเมาแล้วขับ สำหรับแนวทางการดำเนินการของศาลแขวงดอนเมือง กับกลุ่มคดีดังกล่าวนั้น หากผู้กระทำความผิด ตรวจวัดแล้วมีปริมาณแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 251 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ศาลจะใช้นโนยายต่อผู้ต้องคำพิพากษาเหล่านี้ค่อนข้างเคร่งครัด โดยจะสั่งขังทันทีอย่างน้อย 15 วัน ไม่อนุญาตให้ประกันตัว ส่วนกลุ่มที่ตรวจวัดแล้วพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 251 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ศาลจะมีเงื่อนไขคุมประพฤติเพิ่มเติม โดยห้ามออกนอกสถานที่พักอาศัยในยามวิกาล หรือพื้นที่ควบคุมตั้งแต่ 22.00-05.00 น. เพื่อแก้ไขพฤติกรรมและเป็นการป้องปรามกระทำความผิด โดยจะใช้ อีเอ็ม ควบคุมกลุ่มคนเหล่านี้ และห้ามออกที่พักอาศัยจำนวน 15 วัน อย่างไรก็ตาม หลังมีการประเมินผล หากใช้อุปกรณ์ติดตามตัวอีเอ็ม หรือกักขัง 15 วันแล้วไม่หลาบจำจะเพิ่มโทษให้หนักขึ้น โดยในทางคดีสามารถจำคุกได้สูงสุดนานถึง 1 ปี สำหรับผู้กระทำความผิดนอกเขตอำนาจศาล 2 แห่งนี้ ขอให้เป็นดุลพินิจของศาล โดยการตัดสินจะต้องพิจารณาจากพฤติกรรม ความรุนแรงของคดี ร่วมถึงมีผู้ได้รับผลร้ายจากการเมาแล้วขับหรือไม่ โดยมีโทษตั้งแต่ปรับ รอลงอาญา คุมประพฤติ เข้ารับการอบรม แต่กรณีถูกสั่งให้ใส่อุปกรณ์ติดตามตัวอีเอ็มแล้วฝ่าฝืนเงื่อนไขโดยเจตนาจงใจ จะลงโทษจำคุกตามที่รอลงอาญาไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้รวบไปถึงการแข่งรถบนถนนสาธารณะ เช่นกัน

Advertisement

 

นายประสารกล่าวว่า สำหรับการใช้เครื่องมือติดตามตัวจะใช้กับกลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ ในคดีขับรถขณะเมาสุราช่วงเทศกาลสงกรานต์ นั้นป็นการบูรณาการที่สำคัญเพื่อเสริมมาตรการลดอุบัติเหตุ เมื่อศาลมีคำสั่งลงโทษและกำหนดเงื่อนไขให้ใช้อุปกรณ์อีเอ็ม พนักงานคุมประพฤติจะรับอีเอ็มไปจะติดให้ผู้ถูกคุมประพฤติ โดยจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างศูนย์ควบคุมและติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานศาลและสำนักงานคุมประพฤติในการติดตามผู้ถูกคุมความประพฤติ เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงสงกรานต์ระวังมากขึ้น ไม่ขับรถขณะเมาสุรา ส่วนกรมคุมประพฤติอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์อีเอ็ม ซึ่งจะทำสัญญาเช่ากับบริษัทเอกชนคู่สัญญา 4,000 เครื่อง และคาดว่าจะสามารถนำอีเอ็มมาใช้ทั่วประเทศภายในเดือน ก.ย.นี้ ตามสัญญาเช่าต่อเนื่อง 3 ปีตั้งแต่ปี 2561-2563

Advertisement

นายประสารกล่าววด้วย สำหรับกลุ่มผู้กระทำความผิดพบปริมาณแอลกอฮอล์ 251 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปจะถูกส่งตัวไปยังสถานกักขังกลาง จ.ปทุมธานี และนำตัวส่งศาลสั่งฟ้องวันที่ 19 เมษายน โดยจะเริ่มใช้กับกลุ่มผู้กระทำความผิดตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนนี้ ที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบของสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 2 และสำนักงานกรุงเทพมหานคร 12

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image