เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกแท็กซี่ปล่อยลงกลางทางที่มอเตอร์เวย์ หลังจากเดินทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยคนขับไม่ยอมกดมิเตอร์และต้องการเหมา 500 บาท ซึ่งปกติแล้วเส้นทางนี้รวมค่าบริการ 50 บาทของแท็กซี่แล้วอยู่ที่ประมาณ 200 กว่าบาทเท่านั้น
ทำให้เธอถึงกับทนไม่ไหว อัดคลิปประจานรถแท็กซี่คันดังกล่าวอย่างเหลืออด และกล่าวว่า เพราะเป็นเหตุนี้ คนทั่วไปจึงอยากใช้บริการแกร็บมากกว่า นอกจากนี้เธอยังกล่าวด้วยว่า หลังจากต้องยืนรอรถแกร็บที่เธอเรียกมานั้น ก็ได้มีแท็กซี่หลายคันจอดรถถามว่าไปหรือไม่ แต่ต้องไปในราคาเหมา เธอจึงเลือกที่จะใช้บริการรถจากแกร็บดีกว่า
นอกจากนี้เธอยังอัดคลิปอีกว่า คนขับบอกกับเธอถึงเหตุผลที่ไม่กดมิเตอร์ และเรียก 500 เพราะเป็นช่วงสงกรานต์ คนเล่นน้ำ รถก็ติด จึงต้องคิดราคาแพง และเมื่อเธอไม่ยอมจึงบอกว่าเพราะเป็นแบบนี้ถึงไม่อยากรับคนไทย ขนาดว่าเรียกจากรัชดาภิเษกไปอาร์ซีเอยังหลายร้อยเลย ทำให้เธอรู้สึกสงสารชาวต่างชาติที่ต้องเจอกับเรื่องราวแบบนี้ แล้วไม่รู้ว่าจะไปแจ้งที่ไหน
โดยโพสต์ดังกล่าวมีข้อความว่า
“โดนแท็กซี่ทะเบียน ทส-9435 (เขียว-เหลือง) ปล่อยลงตรงมอเตอร์เวย์ ทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ
สาเหตุเพราะคนขับไม่ยอมกดมิเตอร์แล้วไม่ได้บอกตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ไปห้วยขวางคือจะเอา 500!?
ชื่อในบัตรเหลืองหน้ารถ ไม่ตรงกับชื่อที่แจ้งในบัตรที่ได้มาจากสนามบิน ไม่รู้ว่าคนขับเป็นคนเดียวกันกับที่อยู่ในบัตรหรือเปล่า!
“แล้วพวกแมร่งไม่ต้องออกมาเรียกร้องนะว่าทำไมคนไปใช้ grab กันหมด! ก็เพราะพวกมึงเป็นกันยังงี้ไง! ดีนะเป็นกลางวัน ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะเปลี่ยวขนาดไหน! #สงกรานต์แล้วจะทำยังไงก็ได้หรือ? #สงกรานต์แล้วไม่มีกฎหมายหรือ?
(ขออภัยหยาบคายไปหน่อย กำลังโมโหอยู่ สติหลุดมาก มือสั่นไปหมด)”
นอกจากนี้ยังมีคนเข้ามาคอมเมนต์มากมายว่าให้แจ้ง สคบ. เพื่อไม่ให้คนขับออกมาพูดว่าเทศกาลสงกรานต์มีครั้งเดียว
นอกจากนี้ยังมีการแชร์ประสบการณ์ต่างๆ เช่น “เรียกรถจากหมอชิตกลับแยกท่าพระ เหมาจ่าย 400 บาท” และ “จากหมอชิต เข้าคิวตามปกติ พอขึ้นรถมาคนขับถามว่าไปไหน ตอบว่าไป ร.ร.สุรศักดิ์ กลับบ่นว่าวันนี้ซวย ได้แต่ผู้โดยสารระยะใกล้ๆ”
