ก.ค.ศ.ไฟเขียวย้ายผอ.ร.ร.ตาม ว24  เตรียมจัดสอบครูผู้ช่วย พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 18 เมษายน นพ.ธีระเกียรติ   เจริญเศรษฐศิลป์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมหารือการเตรียมความพร้อมการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งกำหนดจะประกาศรับสมัครในเดือนพฤษภาคม 2561  ทั้งนี้การจัดสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้จะแตกต่างจากที่ผ่านมา โดยส่วนกลางหรือ สพฐ. จะเป็นผู้จัดสอบร่วมกับหน่วยงานทางการศึกษา และเห็นชอบให้ มหาวิยาลัยสวนดุสิต (มสด.) เป็นผู้ออกข้อสอบ ซึ่งจะต้องมีมาตรการป้องกันข้อสอบรั่ว หรือให้มีการรู้ข้อสอบล่วงหน้า ดังนั้นในส่วนของหลักเกณฑ์การจัดสอบและระเบียบต่าง ๆ จึงยังไม่เรียบร้อย โดยที่ประชุมยังมีข้อท้วงติงหลายเรื่อง ที่จะต้องปรับแก้ในรายละเอียด เพื่อให้การจัดสอบมีความเป็นธรรม รวมถึงกรณีการเปิดสอบในสาขาขาดแคลน ซึ่งอยากให้เป็นสาขาที่ขาดแคลนจริง ๆ

“เรื่องสำคัญที่ต้องสร้างการรับรู้ คือ ในอดีตมีครูซึ่งอายุมาก หรือบางคนเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแล้ว มาสอบครูผู้ช่วย เมื่อสอบได้ ก็ย้ายไปที่อื่นในตำแหน่งเดียวกัน แต่เป็นวิธีย้ายพิเศษ ซึ่งพอไปดูกฎหมายทำไม่ได้ ดังนั้นการสอบครูผู้ช่วยปีนี้ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า คนที่เป็นครูผู้ช่วยอยู่แล้วจะมาสอบไม่ได้  โดยเฉพาะคนที่มาสอบเพื่อวัตถุประสงค์ในการย้าย ไม่สามารถทำได้ เพราะตามกฎหมายทำไม่ได้ จะสามารถทำได้เฉพาะครู สังกัดหน่วยงานอื่น ให้มาสอบแข่ง เพื่อเข้ามาบรรจุเป็นครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ.”นพ.ธีระเกียรติกล่าว

รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังรับทราบคำสั่งศาลปกครองอุบลราชธานี ซึ่งได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คบ.51/2561 ในคดีหมายเลขดำที่ บ.75/2560 ระหว่างนายเฉลิมเกียรติ แก้วกนก ผู้ฟ้องคดี กับคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ผู้ถูกฟ้องคดี  โดยมีสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า การที่ศาลปกครองชั้นต้น มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามข้อ 10 และ ข้อ 11 ของหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา นั้น  ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วยจึงมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น เป็นยกคำขอของผู้ฟ้องคดี  ซึ่งจากนี้ สพฐ.จะดำเนินการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาได้ตามขั้นตอน โดยกระบวนการย้ายจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 16 พฤษภาคม ส่วนขั้นตอนการสอบผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียนนั้น ยังไม่ได้กำหนดรายละเอียดขอให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนให้เรียบร้อยก่อน

Advertisement

นายพินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์ เลขาธิการก.ค.ศ. กล่าวว่า จากคำสั่งศาลปกครองดังกล่าว มีผลให้การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสพฐ. สามารถดำเนินการโดยใช้หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสพฐ. ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ ว 24 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ต่อไปได้ ที่ประชุมจึงให้ยกเลิกมติชะลอการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสพฐ.และเห็นชอบ แนวทางการดำเนินการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษาโดยให้ดำเนินการพิจารณาย้าย ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ตามหลักเกณฑ์ ว 24 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ซึ่งในวันที่มีมติให้มีการชะลอการย้ายฯ มีการดำเนินการที่อยู่ระหว่างการพิจารณา 6 กรณี ได้แก่ 1. กรณีที่พิจารณาแล้วมีมติอนุมัติ และออกคำสั่งตามมติดังกล่าวแล้ว และได้ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานศึกษา ตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว จำนวน 17 จังหวัด 2.กรณีที่พิจารณาแล้วมีมติอนุมัติ และออกคำสั่งตามมติดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานศึกษาตามคำสั่งดังกล่าว จำนวน 5 จังหวัด 3.กรณีที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด( กศจ.)พิจารณาแล้ว แต่ยังไม่ออกคำสั่ง จำนวน 18 จังหวัด 4.กรณีที่คณะอนุกรรมการกศจ. พิจารณาแล้ว แต่ยังไม่นำเสนอ กศจ. จำนวน 16จังหวัด 5.กรณีที่กลั่นกรองการย้ายแล้ว แต่ยังไม่เสนอ อกศจ. และกศจ. จำนวน 5 จังหวัด และ6. กรณีที่ยังไม่ดำเนินการใด ๆ  จำนวน 12 จังหวัด ทั้งนี้ มีจังหวัดที่ยังไม่ได้รายงานข้อมูลการดำเนินการ จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ยโสธร ร้อยเอ็ด และหนองคาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image