เมื่อวันที่ 20 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้าน ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ บ้านพ่อแม่ของนายฉัตรชัย ขุริดี อายุ 33 ปี แรงงานไทย ที่ปรากฏในเฟซบุ๊ก “เจ้าหญิง เจ้าชาย” โพสต์ภาพผู้ป่วยนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง และภาพบัญชีธนาคารแม่ของแม่ผู้ป่วย ระบุข้อความ
“คนไทยด้วยกัน ช่วยกัน 09090xxxxx คนงานไทยในไทหนาน เขตชินหยิง กินอาหารเป็นพิษ นอนหมดสติรักษาตัวอยู่ รพ.ฉีแหม๋..เหลียวหยิง นานเกือบ 2 เดือนแล้ว
คนป่วยไม่ได้เกิดเหตุในเวลางาน การรักษาของประกันสังคมจึงมีขีดจำกัด ค่ารักษา ค่าหมอ ค่ายา บางส่วนคนไข้ต้องจ่ายเอง และค่าตั๋วเครื่องบิน ที่จะพากลับไปรักษาตัวที่เมืองไทยเราไม่มีเงิน พ่อแม่คนป่วยก็แค่ชาวนาธรรมดา ไม่มีเงินจะรับลูกชายกลับได้ จึงใคร่ขอความเมตตาจากผู้ใจบุญมา ณ ที่นี้ เราคนไทยด้วยกันช่วยกัน หากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคได้ที่ รพ.ฉีแหม๋ แผนกสงเคราะห์ หรือกรมแรงงานช่วยเหลือคนงานไทย ขอบคุณค่ะ”
นายประยงค์ ขุริดี อายุ 59 ปี นางทองวัน ขุริดี อายุ 55 ปี และ น.ส.อภิญญา เยาวลักษณ์ อายุ 39 ปี พ่อแม่และภรรยาของนายฉัตรชัย ที่สภาพใบหน้าเต็มด้วยความกังวลใจ เปิดเผยร่วมกันว่า นายฉัตรชัยเดินทางไปทำงานโรงงานขวดน้ำหอมเมื่อพฤศจิกายน 2560 ติดต่อสื่อสารกับทางบ้านทางไลน์ มีนาคม 2561 โทรมาบอกว่าปวดท้อง-ปวดหัว ที่เกิดจากไปงมหอยกับเพื่อนคนงาน 9 คน เอามาทำอาหารรวมทั้ง “ก้อยดิบ” กิน ทั้งที่หัวหน้าคนงานประกาศเตือน ห้ามไปหาปลา-สัตว์น้ำ ในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะมีสารเคมีเยอะ โดยคนไต้หวันกินปลาเลี้ยงและปลาทะเล
“เวลาผ่านไป 2 วันอาการไม่ดีขึ้น จึงไปหาหมอของโรงงาน ให้ยามากินอีก 7 วันก็ไม่หาย จึงไปหาหมอที่ รพ. หมอก็ให้นอน รพ.ทั้งหมด นายฉัตรชัยติดต่อมาว่าขอนายจ้างกลับบ้าน แต่ยังไม่อนุญาต จากนั้นก็ติดต่อกันไม่ได้ จนเพื่อนคนงานไทยโทรมาบอกนายฉัตรชัยไม่รู้สึกตัวอยู่ในห้องไอซียู ส่วนเพื่อนคนงานไม่หนักเท่า จึงตัดสินใจกู้นอกระบบ 5 หมื่นบาท เป็นค่าตั๋วเครื่องบินและค่าใช้จ่ายให้ภรรยาไปดูอาการสามีที่ไต้หวัน”
น.ส.อภิญญาเล่าว่า เมื่อไปถึงสามีนอนไม่ได้สติในห้องไอซียู ใช้เครื่องช่วยหายใจ เจาะคอให้อาหารทางสายยาง หมอบอกว่ากินหอยดิบ ทำให้พยาธิเข้าไปในร่างกาย เส้นเลือด และขึ้นสมอง พยาธิได้กัดกินสมองไปบางส่วน ไม่มีโอกาสฟื้น แต่ยังไม่ตาย ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เพราะเป็นคนหนุ่มร่างกายแข็งแรง แพทย์บอกให้พ่อแม่และภรรยาทำใจ ได้อยู่ดูแลสามี 1 เดือนวีซ่าหมดจึงกลับ ส่วนเพื่อนสามี 8 คน กินหอยสุกอาการดีขึ้น หมอให้ออกจาก รพ. และนายจ้างอนุญาตให้กลับเมืองไทย หายก็กลับมาทำงานใหม่
น.ส.อภิญญาเล่าอีกว่า สามีรู้ว่าเขาห้ามกินสัตว์น้ำในคลอง แต่มีคนงานไทยเคยกินอยู่ จึงอยากประหยัดค่าอาหาร จะได้มีเงินส่งกลับมาใช้หนี้ เงินเดือนรวมโอทีได้เพียง 2 หมื่นกว่าบาท ที่ไปเพราะอยู่ที่บ้านได้เงินไม่แน่นอน ตอนนี้สิทธิในการรักษาตัวจากโรงงานหมดแล้ว แต่ยังมีมูลนิธิแรงงานไทยที่ไต้หวัน และกลุ่มแรงงานไทยได้บริจาคเงินช่วยเหลือมาบ้าง ซึ่งเงินส่วนเกินจากการประกันสังคมที่นั่นต้องจ่ายเอง โดยทางบริษัทที่จัดส่ง จัดหางาน และสถานทูต ก็มาดูแลให้บางส่วน
“หมอบอกว่าหากไม่ต้องการให้สามีทรมาน ก็สามารถดึงออกซิเจนออก แต่ตนรักสามี อีกทั้งพ่อแม่ยังทำใจไม่ได้ อยากจะนำตัวกลับมารักษาที่บ้าน ถึงจะเป็นเจ้าชายนิทราก็จะดูแลกันเอง แต่ค่าใช้จ่ายเดินทางกลับแพง เพราะต้องเดินทางแบบคนป่วยทางเครื่องบินเช่าเหมาลำราคา 5 แสนบาท ค่ารักษาพยาบาลอีกจำนวนหนึ่ง จึงอยากวอนรัฐบาล ผู้ใจบุญช่วยเหลือ ช่วยนำสามีกลับมารักษาตัวที่บ้าน ให้ภรรยา พ่อแม่ และญาติพี่น้องได้ดูแลกันในวาระสุดท้ายด้วย”
นายประยงค์ และนางทองวัน พ่อและแม่นายฉัตรชัย เล่าว่า มีอาชีพรับจ้าง มีลูกชาย 3 คน นายฉัตรชัยเป็นคนที่ 2 เพิ่งแต่งงาน เคยไปทำงานที่ไต้หวันมาแล้ว 2 ปี ครั้งนี้ได้ยืมโฉนดที่นา 30 ไร่ จากยายไปจำนองนายทุน 85,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 6 เป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไป เพิ่งส่งเงินมาได้เพียงเดือนเดียว 1 หมื่นบาท ก็มาป่วยหนัก ตอนนี้ห่วงลูกมาก ทำอะไรก็ไม่ได้ ไปดูแลก็ไม่ได้ ได้แต่รอฟังข่าวจากเพื่อนคนงาน และญาติที่อยู่ที่นั่น อยากนำลูกกลับมาบ้าน แม้ว่าจะไม่รู้สึกตัว และมีแค่ลมหายใจก็ตาม แต่เพราะเป็นคนจน หาเช้ากินค่ำ จึงอยากวอนให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือนำลูกชายกลับมาบ้านให้ด้วย
ด้านนางยุทธศาสตร์ ทูลกลาง นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สนง.จัดหางาน จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สอบถามไปยังบริษัทจัดหางานที่ส่งตัวนายฉัตรชัยไปทำงาน รับแจ้งว่า ได้ประสานงานติดต่อให้การช่วยเหลือ โดยให้ตัวแทนเป็นผู้ประสานงานใช้สิทธิประกันสุขภาพ โดยคนงานจะต้องรับผิดชอบจ่ายค่าส่วนต่าง ส่วนการส่งตัวกลับมารักษาที่บ้าน บริษัทแจ้งว่า แพทย์ให้ความเห็นว่าหากมีการส่งตัวกลับ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่หากถอดเครื่องช่วยหายใจ คนงานอาจเสียชีวิตทันทีในระหว่างการเคลื่อนย้าย บริษัทประสานกับทางครอบครัวตลอด หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อได้ที่เบอร์ 0-2187-1114
ผู้ใจบุญที่มีจิตเป็นกุศล ต้องการช่วยเหลือนำตัวนายฉัตรชัยฯ แรงงานไทยรายนี้กลับมารักษาตัวที่บ้าน สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้ โดยบริจาคทางบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านผือ ชื่อบัญชี นางทองวัน ขุริดี เลขที่บัญชี 431-0-512593