“ชบาแก้ว” ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อันดับ 30 โลก และอดีตแชมป์เอเชี่ยน คัพ ปี 1983 ลงเตะรอบชิงอันดับ 3 พบ จีน อันดับ 17 โลก อดีตรองแชมป์โลกปี 1999 และแชมป์เอเชี่ยนคัพ 8 สมัย ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย “เอเอฟซี วีเมนส์ เอเชี่ยนคัพ 2018” ที่อัมมาน อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อวันที่ 20 เมษายน
สถิติการพบกันที่ผ่านมาตามการรับรองของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เคยพบกัน 12 ครั้ง ปรากฏว่า ทีมสาวจีน ชนะได้ถึง 11 ครั้ง และเสมอกัน 1 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเจอกันในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบแรก ที่อัมมาน อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม แห่งนี้ โดยผลปรากฏว่า ทีมสาวไทย แพ้ขาดลอย 0-4
สำหรับเกมนี้ “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน เฮดโค้ชทีมแข้งสาวไทยปรับทัพผู้เล่นจากนัดก่อน 1 ตำแหน่ง โดยส่ง “แนน” นิภาวรรณ ปัญโญสุข มิดฟิลด์ดาวรุ่ง วัย 23 ปี ลงทำหน้าที่ในแดนกลางแทน “แม้ว” วิลัยพร บุตรด้วง ที่ติดโทษแบนหลังโดนใบเหลืองแดงจากนัดก่อนที่พ่ายจุดโทษ ออสเตรเลีย
ส่วนผู้เล่นไทยคนอื่นยังนำโดย ผู้รักษาประตู “ทราย” วราภรณ์ บุญสิงห์, แบ๊กซ้ายกัปตันทีม “แนนซี่” สุนิสา สร้างไธสง, แบ๊กขวา “โต้” อินทร์อร พันธุ์ชา, กองหลัง “ตาล” ณัฐกานต์ ชินวงศ์, “ทีม” กาญจนาพร แสนคุณ, กองกลาง “ปิ่น” พิกุล เขื่อนเพ็ชร, “หมิว” ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, ริมเส้น “ไหม” ธนีกานต์ แดงดา, “น้ำ” รัตติกาล ทองสมบัติ และกองหน้าตัวเป้า “เนตร” กาญจนา สังข์เงิน ดาวยิงสาวไทยที่ยิงไปแล้วในรายการนี้ 4 ประตู
ขณะที่ทีมแข้งสาวจีนภายใต้การคุมทัพของ “ซิกกี้” ซิกกูรูร์ เอย์ยอฟส์สัน กุนซือชาวไอซ์แลนด์ จัดทัพชุดใหญ่นำโดย หลี่ หยิง ดาวซัลโวของรายการที่ยิงไปแล้วถึง 6 ประตู ประสานงานในแนวรุกร่วมกับ หวัง ชวง, หวัง ชานชาน, กู่ หย่าชา และมี หวู่ ไฮ่หยาน ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมยืนคุมเกมในแนวรับ
เกมครึ่งแรกนาทีที่ 7 ทีมสาวไทยได้โอกาสเข้าทำก่อนจากจังหวะที่ กู่ หย่าชา สับไกยิง แต่บอลติดเซฟ วราภรณ์ รับเอาไว้ได้ นาทีที่ 13 ทีมไทยบุกโต้คืนได้ลุ้นจากจังหวะที่ ศิลาวรรณ ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนไหลคืนให้ นิภาวรรณ ปั่นโค้งๆ แต่นายด่านสาวจีนพุ่งปัดทิ้งออกไป นาทีที่ 36 จีนได้ยิงจาก หวัง ชวง แต่ยังไม่ผ่านมือ วราภรณ์ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 51 จีนยิงขึ้นนำ 1-0 หลี่ หยิง ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนกลับตัวแล้วซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเบียดเสาแรกเป็นประตูที่ 7 ของ หลี่ หยิง ในรายการนี้ นาทีที่ 56 จีนขยับสกอร์หนี 2-0 จากลูกเตะมุม เริน กุยซิน ขึ้นโหม่งจังหวะแรกไปติดเซฟ ก่อนที่ หวัง ชานชาน ตามซ้ำดาบสองเข้าไป
นาทีที่ 61 วราภรณ์ ออกมาสกัดบอลปะทะกับผู้เล่นจีนจนบาดเจ็บล้มไปกองกับพื้น แต่เกมไม่หยุด และบอลไปเข้าทาง ซอง ตวน ซัดให้จีนหนีห่าง 3-0 นาทีที่ 81 ชบาแก้วยิงไล่มา 1-3 ศิลาวรรณ ยิงบอลไปชนเสากระเด้งเข้าทาง รัตติกาล ตามซ้ำตุงตาข่าย ช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ทีมไทย แพ้ จีน 1-3 ทำให้ทีมไทยได้อันดับ 4 ส่วนจีนคว้าอันดับ 3 ไปครองสำเร็จ
สำหรับ ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จะเดินทางออกจากกรุงอัมมาน ด้วยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR401 เมื่อวันที่ 21 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น 21.00 น. ซึ่งช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง ก่อนไปรอต่อเครื่องที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และเปลี่ยนเครื่องนั่งเที่ยวบินที่ QR980 มาถึงยังสนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 22 เมษายน ตามเวลาไทย 12.55 น.
ขณะที่รอบชิงชนะเลิศ ญี่ปุ่น แชมป์เก่าสามารถป้องกันแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกันได้สำเร็จ หลังเฉือนชนะ ออสเตรเลีย 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก คูมิ โยโกยามะ ซัดด้วยเท้าขวาเต็มข้อเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงามในช่วงท้ายเกมนาที่ที่ 84
