สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ(ไกส์ฟ) ได้จัดการประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างการประชุม “สปอร์ต แอคคอร์ด 2018” มีข้อสรุปที่น่าสนใจว่า การแข่งขันกีฬาต่อสู้โลก “เวิลด์คอมแบทเกมส์ 2019” ซึ่งจะแข่งขันที่ไต้หวัน ในปีหน้า ได้ถูกเลื่อนออกไป แต่จะมีมหกรรมใหม่ขึ้นมา คือ “เวิลด์เออร์เบินเกมส์” ซึ่งจะนำเอากีฬาสมัยใหม่ที่ได้รับความนิยมจากคนในสังคมเมืองเข้ามาแข่งขัน โชว์ และจัดเป็นงานให้ประชาชนได้มามีส่วนร่วม รวมทั้งมีเรื่องของดนตรี วัฒนธรรมเข้ามาผสมผสาน ในะระยเวลา 5 วัน แข่งขันในพื้นที่ยอดนิยมในเมืองเจ้าภาพ ซึ่งจะบรรจุ 14 ชนิดกีฬาทั้งที่มีในโอลิมปิกเกมส์และไม่มีในการแข่งขันครั้งแรก คาดว่าจะมีบาสเกตบอล ทรี ออน ทรี, บีเอ็มเอ็กซ์ จักรยานฟรีสไตล์, เบรกแดนซ์, ปีนหน้าผา, จานร่อนฟรีไสตล์, โรลเลอร์ฟรีสไตล์, อินไลน์ฟรีสไตล์, สเก็ตบอร์ด และฟรีรันนิ่ง นักกีฬาจะมีจำนวนไม่เกิน 700 คน อย่างไรก็ตามชนิดกีฬาอย่างเป็นทางการจะถูกกำหนดร่วมกันระหว่างเมืองเจ้าภาพและไกส์ฟ ส่วนเมืองเจ้าภาพนั้น ได้เปิดให้เริ่มเสนอตัวกันแล้ว และจะมีการเลือกเมืองเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้ แข่งขันในปี 2019 หรือ 2020
แพทริก เบามันน์ ประธานไกส์ฟกล่าวว่า เวิลด์ เออร์เบินเกมส์จะเป็นเกมที่ให้วัฒนธรรมเมือง เยาวชน กีฬา ไลฟ์สไตล์มาร่วมเฉลิมฉลองกันได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะสร้างความเชื่อมโยงกันระหว่างนักกีฬาและแฟนๆ ได้มากกว่ามหกรรมทั่วไป ดังนั้นเจ้าภาพครั้งแรกจะได้เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์สำคัญของมหกรรมนี้ และเป็นการสร้างมหกรรมแห่งอนาคตด้วย ส่วนเวิลด์คอมแบทเกมส์ จากเดิมที่จะแข่งขันในปีหน้า ได้ปรับให้จัดขึ้นในปี 2021 แทน ทำให้ระยะห่างจะเป็น 4 ปีครั้ง เหตุผลหลักๆ ที่ต้องปรับเพราะปี 2019 เป็นปีที่ควอลิฟายโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งนักกีฬาจะไปมุ่งมั่นในการล่าโควต้าเป็นหลัก
