การที่ “พรรคคสช.” ใช้ “พลังดูด”จากทำเนียบรัฐบาลไปยัง นายสนธยา คุณปลื้ม และ นายอิทธิพล คุณปลื้ม อาจเป็นเรื่องอึกทึก ครึกโครม
แต่เมื่อไปดูผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
พรรคพลังชล ได้ ส.ส.เขต 6 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน รวมเท่ากับ 7 คน
ยังน้อยมาก
ที่สำคัญ แม้ตัวบุคคลในพรรคพลังชลจะเคยร่วมรัฐบาลกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย แต่พวกเขาก็ยังมิใช่เนื้อแท้ของ”เพื่อไทย”
“พลังดูด”ของ”พรรคคสช.”จึงยังไปไม่ถึง
หากถือเอาบรรทัดฐานจากการเลือกตั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 มาเป็นบรรทัดฐาน
ตรวจสอบรายชื่อพรรคการเมืองที่อาจเป็น “เป้า”
พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.เขต 29 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 คน รวมเป็น 34 คน
พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ส.ส.เขต 15 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4 คน รวมเป็น 19 คน
พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ ส.ส.เขต 5 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คน รวมเป็น 7 คน
รวม 4 พรรคแล้วอย่างเก่งก็ได้เพียง 67 คน
ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่ต้องการคือ 251 เสียงเป็นอย่างมาก
การใช้ “พลังดูด” อาจสร้างสีสัน
แต่กลยุทธ์ที่จะแสดงประสิทธิภาพอย่างแท้จริงยังจำเป็นต้องเจาะทะลวงไปยัง”พรรคเพื่อไทย”เท่านั้น
น่าสนใจก็ตรงที่แม้จะมีความพยายามพุ่งเข้าไปยังนครปฐม เข้าไปยังสุโขทัย เข้าไปยังฉะเชิงเทรา
แต่ก็ได้เพียงที่”แวดล้อม” ยังไม่ถึง “เป้า”
ขณะที่ยุทธวิธีของพรรคเพื่อไทยต่อการเลือกตั้งภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 คือ การตรึงพื้นที่ ส.ส.ระบบเขตเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
ตราบใดที่”พรรคคสช.”เจาะภาคอีสาน ภาคเหนือไม่สำเร็จ ตราบนั้นก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่การต่อท่อแห่งอำนาจจะราบรื่น
