เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้ร้าง อายุกว่า 60 ปี ย่านชุมชนตรอกปลาในตัวเมืองเทศบาลนครตรัง ไม่ถึงเดือนเกิดเพลิงไหม้ปริศนาถึง 2 ครั้ง รถดับเพลิงเร่งสกัดไฟไม่ให้ลุกลามไปบ้านข้างเคียงในชุมชนแออัด คาดเบื้องต้น วัยรุ่นเข้าไปปาร์ตี้ยาแล้วจุดไฟตั้งไว้หรือจงใจลอบวางเพลิง รอพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ ในขณะที่ชาวบ้านวิงวอนขอให้หน่วยงานหรือเจ้าของบ้านเข้ารื้อถอนทำลายด่วน
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 22 เมษายน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครตรัง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านไม้ร้างไม่มีคนอยู่อาศัย เลขที่ 96/9 บริเวณในชุมชนตรอกปลา เขตเทศบาลนครตรัง ห่างจากถนนพระราม 6 เพียง 400 เมตร หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิงจำนวน 4 คัน เจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย ก่อนประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุดอินทรี สภ.เมืองตรัง ร่วมกันเข้าตรวจสอบ
ถึงที่เกิดเหตุพบว่าบ้านไม้หลังดังกล่าวลักษณะ 2 ชั้น ไม่มีการใช้งานไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ระดมฉีดน้ำเข้าสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้อยู่อย่างรุนแรงภายในตัวบ้านและพยายามสกัดไม้ให้เพลิงลุกลามไปยังบ้านเรือนใกล้เคียงเนื่องจากเป็นชุมชนแออัด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน เป็นเพียงห้องโถงกว้างไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หรือข้าวของเครื่องใช้ พบจุดต้นเพลิงเกิดจากเสาไม้กลางบ้านและลุกลามไปยังหลังคาและตัวบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง
จากการสอบถามนางบุญช่วย ขำช่วย อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/1 ชุมชนตรอกปลา ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน เล่าว่า ในอดีตตนเองเคยเช่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่อาศัย แต่ได้ออกไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ติดกันมากว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีอายุมากกว่า 60 ปี และได้ถูกทิ้งร้างมาเกือบ 2 ปี โดยเจ้าของบ้านที่อยู่ต่างอำเภอไม่ค่อยได้กลับมาดูแล และเมื่อครั้งที่แล้ว กลางดึกวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาเพลิงก็ได้ลุกไหม้บ้านหลังนี้แล้วเช่นกัน แต่ในครั้งนี้ก็มาเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 ส่วนชาวบ้านหลายคนให้ความคิดเห็นว่าอยากให้หน่วยงานหรือเจ้าของบ้านเข้ามารื้อทำลายโดยด่วน เนื่องจากบ้านใกล้เคียงเป็นบ้านไม้หลายหลังหวั่นความไม่ปลอดภัย และฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว
ส่วนสาเหตุในครั้งนี้คาดว่าอาจจะมาจากวัยรุ่นเข้าไปมั่วสุมยาเสพติดกันภายในบ้านร้างหลังดังกล่าวโดยมีการจุดไฟทิ้งไว้ ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น หรือเป็นการลอบวางเพลิง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธร จ.ตรัง จะทำการเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
