อย.รอผลตรวจสารอันตรายใน”เมจิก สกิน”อย.จ่อเรียกดารารีวิวโฆษณา หากเกี่ยวข้องจำหน่าย-รู้เห็น ผิดด้วย

เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ภก.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดแถลงข่าว กรณีการเข้าจับกุมผลิตภัณฑ์ เมจิก สกิน ที่จดแจ้งในนามของนางวรรณภา พวงสน ว่า ในการติดตามขยายผล อย.ได้ส่งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการตรวจสอบและประสานผลมายังอย. ซึ่งในเบื้องต้นที่มีการสรุปผลไปแล้ว คือ ในเรื่องของสถานประกอบการไม่ถูกต้องตามที่มีการจดแจ้งไว้กับอย. ส่วนเรื่องสารประกอบต่างๆว่าจะมีสารที่เป็นอันตรายหรือไม่นั้น อย.ได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ ตั้งแต่มีการลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางที่จดแจ้งในนามของนางวรรณภา พวงสน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งการตรวจสอบต้องใช้เวลา หากได้ข้อมูลผลกระทบจากผลิตภัณฑ์จะแจ้งสู่สาธารณชนต่อไป
ภก.สมชาย กล่าวอีกว่า ในส่วนการโฆษณาในสื่อต่างๆรวมทั้งการรีวิวนั้น อย.มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบตามสื่อต่างๆ ทั้งสื่อออนไลน์ วิทยุ หรือเว็บไซต์ ซึ่งมีจำนวนมากนั้น ต้องเรียนว่าการทำงานควบคุมเรื่องนี้ก็ค่อนข้างลำบาก เพราะผู้ประกอบการมีความระมัดระวัง เช่น การขอเข้าไปเป็นเพื่อนหรือสมาชิกในกลุ่มไลน์ จะต้องรอแอดมินยืนยันและบางครั้ง จะมีการโทรเช็คก่อนว่าเป็นลูกค้าจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในการรีวิวต่างๆผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้น เข้าข่ายการโฆษณา ซึ่งอย.ได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังต้นสังกัดของดารานักแสดง นักร้อง พริตตี้ เน็ตไอดอล ที่อยู่ในความดูแลให้มีความระมัดระวังในการรีวิวสินค้าต่างๆที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทาง อย. ไม่ให้มีการโฆษณาเกินจริง และต้องมีวิจารณญาณในการโฆษณา ไม่ชักนำให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของ อย. ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 ดังนั้นหากมีการฝ่าฝืนรีวิวจะอ้างว่าไม่ได้รับเงินหรือผลตอบแทนไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในข้อกำหนดของ อย. หรือ หากระบุว่าไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ใช้เลข อย.ปลอม ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยหากมีความผิด ผู้โฆษณาจะมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งการเรียกดาราที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการเป็นเรื่องของทางตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบว่ามีส่วนร่วมในการจำหน่ายด้วยหรือไม่ หาก อย.พบดาราคนใดมีส่วนเกี่ยวข้อง อาจทำหนังสือเรียกให้มารายงานตัวและเสียค่าปรับ
“ในการขอเลขที่จดแจ้ง 13 หลัก มีขั้นตอนดังนี้ คือ 1.ยื่นสถานที่ผลิต เพื่อขอรับเลขที่จดแจ้ง 8 ตัวหลัก 2.หากได้ 8 ตัวมาแล้ว ต้องยื่นของ 5 ตัวหลังผ่านสารบบ โดยการส่งข้อมูลผู้ผลิตต่างๆ รวมทั้งสารประกอบที่ใช้ ซึ่งระยะเวลาที่พิจารณาจะแตกต่างกันตามแต่ผลิตภัณฑ์ คือ หากมีสารประกอบที่ อย.เคยอนุญาตมาแล้ว จะง่ายต่อการพิจารณา ประมาณ 20 วันทำการ แต่หากมีสารสามัญ ซึ่งเป็นสารที่ไม่เคยพบในเครื่องสำอาง และยังไม่ได้รับอนุญาตในการตรวจก็ต้องใช้เวลาประมาณ 28 วันทำการ เพราะต้องตรวจอย่างละเอียด และจะมีทีมสุ่มตรวจสารประกอบหลังได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันการเติมแต่งเพิ่มในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ในการย้ายสถานที่ผลิตแต่เป็นผู้ประกอบการรายเดิม ก็ต้องขอมายัง อย.ก่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงหมายเลข 8 ตัวหน้า ดังนั้นผลิตภัณฑ์ตัวเดิม แต่เปลี่ยนที่ผลิตเลข 8 ตัวหน้าจะต่างกัน
ส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในท้องตลาดปัจจุบันมี 5-6 แสนรายการ มีที่ขอจดแจ้งก่อนปี 2558 ก่อนมี พ.ร.บ.เครื่องสำอางฉบับใหม่ออกมา ซึ่งจะหมดอายุประมาณเดือนกันยายนที่จะถึงประมาณ 4 แสนรายการ ดังนั้นจะทราบตัวเลขผลิตภัณฑ์ที่แน่นอนประมาณเดือนกันยายน เพราะบางอันอาจเลิกผลิตไปแล้ว เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค ได้มีการคุยกันในการทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยมีวิธีให้ผู้บริโภคตรวจสอบฉลากด้วยวิธีง่ายๆและแม่นยำ เช่น การใช้เลข 13 หลักอาจทำให้ตรวจสอบยาก หรือ ยุ่งยากเกินไป ดังนั้นอาจมีการทำคิวอาร์โค้ดติดไปยังตัวผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคสามารถสแกนตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” ภก.สมชาย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image