ฝาท้ายรถบรรทุกขวดส่งโรงงานรีไซเคิลชำรุด เศษขวดแก้ว 2 ตัน หล่นเกลื่อนถนนยาว 1 กม.

เวลา 03.20 น. วันที่ 24 เมษายน พ.ต.อ.เอนก พงษ์สวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดบนถนนสายเอเชีย ตรงช่วงหลักกิโลเมตรที่ 31-32 ในเส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ เขตตำบลโพธิ์สามต้น อำเภอบางปะหัน ซึ่งมีท้ายแถวสะสมยาวกว่า 2 กิโลเมตร

เหตุเพราะว่ามีรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งได้บรรทุกเศษขวดรูปแบบต่างๆ จำนวน 16 ตัน เพื่อนำไปส่งโรงงานรีไซเคิล โดยฝาท้ายกระบะบรรทุกเกิดความผิดพลาด สลักฝาท้ายชำรุด ทำให้ฝาท้ายอ้าเปิดออก และเศษขวดแก้วจำนวนมาก กว่า 2 ตัน ร่วงหล่นโปรยปราย และกระจายเต็มท้องถนน ตรงช่วงดังกล่าวยาวประมาณ 1 กิโลเมตร

Advertisement

โดยช่วงเวลานั้น ถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพฯ ทั้ง 4 ช่องจราจร มีความจำเป็นต้องปิดการจราจรบางช่อง โดยเฉพาะ 2-3 ช่องจราจรซ้ายสุด และทำให้รถยนต์เหลือเส้นทางใช้ได้เพียง 1 ช่องจราจรเท่านั้น แต่ต้องใช้ความระมัดระวังมากที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อาสาสมัครกู้ภัยอยุธยา โดยนายชัชชัย กิตติไชย หรือชัช ตลาดไท ได้นำรถดับเพลิงมาช่วยฉีดทำความสะอาดถนน และใช้แรงงานเก็บกวาดขวดแตกจำนวน 2 ตัน ให้พ้นจากผิวการจราจร ไปรวมกันที่ไหล่ทางเพื่อรอการเก็บออกจากพื้นที่

และได้เร่งคืนผิวการจราจรเร็วที่สุดได้ในช่วงเวลา 05.30 น.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ วันนี้จะต้องมีการเก็บเศษขวดแตกทั้งหมดออกจากไหล่ทางอีก และจะต้องทำความสะอาดถนนช่วงดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยที่สุด

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.เอนกเปิดเผยอีกว่า สำหรับรถบรรทุกได้ควบคุมไว้ได้ พบว่าเป็น บรรทุกพ่วงตัวแม่ ทะเบียน 70-1155 อุตรดิตถ์ และพ่วงตัวลูก ทะเบียน 70-1251 อุตรดิตถ์ มีนายสุเมธ สมาธิมงคล อายุ 29 ปี เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกเศษขวดแก้วรวม 16 ตัน โดยผู้ขับขี่อ้างว่าสลักฝาท้ายพ่วงหลุด โดยทางตำรวจจะให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในการเก็บขวดแก้วออกไปจากไหล่ทางที่กวาดกองไว้ และแจ้งทางแขวงทางหลวงมาตรวจสอบถนนว่าเสียหายหรือไม่

Advertisement

สำหรับข้อหาเบื้องต้นแจ้งขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย สั่งปรับ 500 บาท และกำลังพิจารณาที่จะต้องแจ้งข้อหาต่อผู้ขับขี่เพิ่มเติม เพราะเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 45 ซึ่งกำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทิ้งขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล น้ำเสีย น้ำโสโครก เศษหิน ดิน ทราย หรือสิ่งอื่นใดในเขตทางหลวง หรือกระทำด้วยประการใดๆ เป็นเหตุให้ขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล เศษหิน ดิน ทราย ตกหล่นบนทางจราจรหรือไหล่ทาง โดยหากเจ้าพนักงานทางหลวงหรือตำรวจพบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าว สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดีได้ทันที ซึ่งมีโทษตามมาตรา 72 คือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขอบคุณภาพจาก กู้ภัยอยุธยา และ สภ.บางปะหัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image