เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีข่าวนายเอ็ม ชัยชนะ ศิริชาติ ชายหนุ่มไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ทำร้ายร่างกายแฟนสาว หรือน้องนิต้า จนบาดเจ็บสาหัส ภายในคอนโดมิเนียม ย่านนวมินทร์ ก่อนที่โลกออนไลน์ได้นำมาแชร์และช่วยกันค้นหาแหล่งที่เกิดเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าควบคุมตัวนายชัยชนะมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจนครบาลบึงกุ่ม ส่วนแฟนสาวเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวนั้น
ล่าสุดทางทีมข่าวได้เดินทางเข้าพบพ่อของน้องนิต้า แฟนสาวของนายเอ็ม ในพื้นที่บ้านบางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ที่เป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์พบว่ามีญาติๆ พี่น้อง และคุณพ่อ ได้นั่งติดตามข่าวสารพร้อมนั่งพูดคุยถึงเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางบ้านรู้สึกเป็นห่วงน้องนิต้า ลูกสาวที่ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันทางลูกสาวได้คุยกับพ่อผ่านไลน์ว่า “ไปเที่ยวกันมาด้วยแหละ สนุกมากๆ เจอแล้วนะคนที่ดูแลลูกได้ไม่ต้องเป็นห่วงนะป่ะ จะไม่ทำให้หนักใจแล้วนะ ประกาศย้ำพร้อมมีเครื่องหมายตกใจ เจอแล้วคนที่ดูแลลูกได้ รักจริงๆ กับพี่เอ็ม” และหลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายลูกสาวของตนเองจนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนายเอ็มและช่วยเหลือน้องนิต้ามาได้
พ่อน้องนิต้ากล่าวว่า ตนเองรู้สึกสะเทือนใจในความรักของพ่อที่มีต่อลูกซึ่งเมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ทำร้ายร่างกายก็ยังสะเทือนใจ ซึ่งตนเองได้ส่งลูกสาวน้องนิต้า ไปเรียนที่กรุงเทพฯนานหลายปีพร้อมส่งเงินเสียค่าเรียนทุกสัปดาห์ และทุกเดือนให้ลูกสาว ซึ่งก่อนหน้านี้น้องก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีแฟน และตนพึ่งจะมาทราบข่าวว่าลูกสาวมีแฟนหนุ่มซึ่งที่ผ่านมาตนได้ส่งข้อความผ่านไลน์พูดคุยกับลูกสาวถึงเรื่องการทำงานของพ่อที่อยู่ในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ว่าขณะนี้ตนเองได้ทำอาชีพเสริมโดยการต่อพ่วงข้างรถจักรยานยนต์ขายของ และส่งรูปไปให้ลูกสาวดูผ่านไลน์ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้รูปที่ไปปรากฏบนไลน์ของลูกสาวเกิดการอ่อนไหวจนทางลูกสาวได้ตอบไลน์กลับมาว่ารู้สึกสงสารป่ะ(พ่อ) ต่อไปหนูจะดูแลพ่อเอง แต่ตนก็รู้สึกแปลกใจเพราะว่าคำพูดที่อาจไม่ใช่คำพูดของลูกสาว “บอกว่าจะดูแลน้องนิต้าอย่างดีจะไม่ให้พ่อเป็นห่วงอีกแล้ว”
พ่อของน้องนิต้ากล่าวต่อว่า พอหลังจากเขาพูดจบตนก็นิ่งไปพักนึง เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะเจอเรื่องแบบนี้ ซึ่งตนฉุกคิดขึ้นมาคำหนึ่งที่ลูกสาวพูดว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะคิดว่าข้อความนี้ไม่ใช่ข้อความที่ลูกพิมพ์เองแน่ๆ และตนได้โทรไปหาลูกสาวคนโตที่อยู่กรุงเทพฯว่าให้จัดการดูน้องสาวให้ดีๆ เพราะพ่อรู้สึกแปลกใจอะไรซักอย่างกลัวว่าลูกสาวจะลำบาก ซึ่งก็ไม่กี่วันหลังจากเช็กข้อความ คุยกับพ่อก็ได้เกิดเหตุการณ์ไลฟ์สดการทำร้ายร่างกาย จนทางพี่สาวได้โทรมาบอกพ่อว่าไม่รู้น้องสาวจะเกิดอะไรขึ้น ตนจึงได้โทรไปหาญาติๆ ที่อยู่ทางกรุงเทพฯให้ช่วยดูและติดต่อตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุให้เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือลูกสาว
“หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้โทรไปคุยกับน้องนิต้า น้องเขาก็พูดคุยอย่างเป็นปกติถึงแม้ว่าร่างกายจะบาดเจ็บแต่น้องเขามีสุขภาพจิตที่ดี บอกให้เราสบายใจ แต่ยังดีที่นายเอ็มไม่ลงมือทำร้ายลูกจนถึงกับชีวิต แต่ทางผู้ที่ก่อเหตุก็ต้องยอมรับในการลงโทษทางกฎหมาย จะให้ลูกสาวคนโตเข้าไปดูแลน้อง ซึ่งเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจมาจากยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องการให้แก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แม้ว่าลูกสาวจะรักนายเอ็ม ก็ไม่ได้ไปบังคับจิตใจลูกสาวที่เขารักเป็นปกติเพราะความผูกพัน” พ่อน้องนิต้ากล่าว และว่า ส่วนเรื่องหุ้น 40 ล้านบาท ตนเองในฐานะพ่อที่เป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แต่ถ้ามีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยสอบถามลูกสาวว่าเงินในบัญชีมีอยู่เท่าไร ทางลูกสาวก็ได้โชว์ให้ดูว่ามีอยู่ไม่กี่พันบาท ซึ่งเรื่องหุ้น 40 ล้านบาทก็อาจเป็นเรื่องของเงินที่มาจากการอบรมอะไรสักอย่างที่เก็บมาได้ ซึ่งคนอายุ 26 ปี ซื้อคอนโดมิเนียมหรูในราคาล้านกว่าบาท ด้วยเงินสดนั้น ตนคิดว่าลูกสาวคงตกเป็นแพะ ต่อจากนี้ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสอบปากคำ และให้แพทย์ทำการรักษาลูกสาวให้หายเป็นปกติก่อนถึงจะเดินทางไปเยี่ยม
