ทีโอทีและดีแทคลงนามสัญญาให้บริ การ 4G LTE-TDD คลื่น 2300 MHz ครั้งแรกในไทย

23 เมษายน 2561 วันนี้ บมจ.ทีโอที และ เทเลแอสเสท ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่ มดีแทค ไตรเน็ต พร้อมกับ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ได้ลงนามในสัญญาเช่าเครื่ องและอุปกรณ์โทรคมนาคม และสัญญาการใช้บริการข้ามโครงข่ ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภายในประเทศระบบ 2300 MHz อย่างเป็นทางการเรียบร้อย เพื่อเปิดให้บริการ 4G LTE-TDD คลื่น 2300 MHz บนแบนด์วิดท์ที่กว้างที่สุดถึง 60 MHz เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้ าวสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้ นฐานดิจิทัลของประเทศไทยให้ทั ดเทียมกับประเทศชั้นนำของโลก เป็นประโยชน์ให้กั บประเทศในการขับเคลื่ อนนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรั ฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรีที่มี เป้าหมายเพื่อสร้างความเท่าเที ยมและทั่วถึงในการเข้าถึงอิ นเทอร์เน็ตความเร็วสู งของประชาชนตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามี บทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน สร้างประโยชน์สูงสุดให้กั บประชาชน รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่ วนในการใช้งานดาต้าที่เติ บโตรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิ จที่ยั่งยืนของ ทีโอทีด้วย

ภายใต้กรอบความร่วมมือที่มี ระยะเวลาถึงปี พ.ศ. 2568 บมจ.ทีโอที จะเช่าเครื่องและอุปกรณ์ โทรคมนาคมจากเทเลแอสเสท ซึ่งเป็นบริษัทลูกของดีแทค ไตรเน็ต เพื่อนำมาสร้างโครงข่ ายโทรคมนาคมสำหรับให้บริการไร้ สายความเร็วสูง (Broadband Wireless Access, BWA) ทั้งบริการบรอดแบนด์ไร้ สายประจำที่ (Fixed Wireless Broadband) และบริการบรอดแบนด์เคลื่อนที่ (Mobile Broadband) ผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งความจุโครงข่ายส่วนหนึ่ง (Capacity) ทีโอที ได้นำมาให้บริการตอบโจทย์ความต้ องการใช้งานของลูกค้า และตอบสนองนโยบายของรัฐ และความจุโครงข่าย (Capacity) อีกส่วนหนึ่ง จะนำมาให้บริการแก่บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต ในรูปแบบของการใช้บริการข้ ามโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Roaming) โดย ทีโอที จะมีรายได้จากการให้บริการโรมมิ่ งปีละประมาณ 4,510 ล้านบาท

Advertisement

นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที เปิดเผยว่า จากแนวนโยบาย แผนการบริหารและมาตรการต่างๆ ของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่กำหนดให้คณะกรรมการ บมจ.ทีโอที กำกับดูแลให้ ทีโอที ดำเนินงานตามแผนพลิกฟื้นองค์กร ด้วยการจัดทำ แผนดำเนินงานที่ใช้ทรัพย์สินที่ มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจนมาถึงวันนี้ได้นั้น ทีโอที ได้รับความอนุเคราะห์และความช่ วยเหลือจากหลายภาคส่วน ทีโอที ขอขอบคุณ กสทช. ที่อนุญาตให้ ทีโอที ปรับปรุงการใช้งานคลื่นความถี่ 2300 MHz ที่ใช้งานอยู่เดิม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อนำมาให้บริการเสียง ข้อมูล และพหุสื่อ ภายใต้แผนการให้บริการไร้สายคลื่ นความถี่ 2300 MHz และที่สำคัญ คือ ทีโอที ต้องขอขอบพระคุณสำนักงานอั ยการสูงสุดที่กรุณาให้ข้อสั งเกตและข้อคิดเห็นเพื่อปรับปรุ งร่างสัญญาจนสมบูรณ์เป็นอย่างดี

จากผู้สนใจ 6 รายที่เข้าร่วมยื่นข้อเสนอเพื่ อเป็นพันธมิตรคู่ค้าบริการไร้ สายคลื่นความถี่ 2300 MHz กลุ่มบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต เป็นผู้ที่ผ่านกระบวนการคัดเลื อกมาอย่างโปร่งใส รัดกุม ทุกขั้นตอนโดยทีมงานที่ปรึกษาที่ มีประสบการณ์ในการสรรหาคู่ค้ าระดับโลก ซึ่งก็คือ บริษัท เดเทคอน และไพร์มสตรีท แอดไวเซอรี่ ที่เริ่มกระบวนการคัดเลือกคู่ค้ าตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2559 โดยกำหนดหลักเกณฑ์และขั้ นตอนในการสรรหาคู่ค้าอย่างละเอี ยด ทั้งทางด้านเทคโนโลยี ผลงาน รวมถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา และตลอดจนผลตอบแทนเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ ทีโอที มั่นใจได้ว่า พันธมิตรคู่ค้าที่ผ่านการคัดเลื อกจากที่ปรึกษาจะส่งเสริ มการทำธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะบริการไร้สายของ ทีโอที ในระยะยาว และสร้างหลักประกันด้านการเงิ นให้กับ ทีโอที ได้เป็นอย่างดี

Advertisement

            นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ความร่วมมือกับทีโอทีนี้มีนั ยสำคัญมากต่อการยกระดับคุ ณภาพการใช้ชีวิ ตของคนไทยและการพัฒนาประเทศ เพราะเราได้นำคลื่น 2300 MHz ที่มีความกว้างที่สุดถึง 60 MHz มาเพิ่มคุณภาพบริการ และพลิกประสบการณ์การใช้งานดิจิ ทัลของผู้บริโภคที่จะสามารถใช้ งานอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น ลื่นขึ้นมากกว่าเดิม การนำคลื่น 2300 MHz มาเปิดให้บริการครั้งนี้ถือเป็ นก้าวสำคัญในการเพิ่มศั กยภาพการแข่งขันของประเทศไทยให้ อยู่ในอันดับผู้นำของกลุ่ มประเทศอาเซียน ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิ ตของคนไทย และช่วยกระตุ้นกระบวนการการเปลี่ ยนผ่านประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัล

ดีแทคต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ เกี่ยวข้องที่ทำให้การลงนามในสั ญญานี้ประสบความสำเร็จ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรั ฐวิสาหกิจ (สคร.) คณะกรรมการ บมจ.ทีโอที และ กสทช. ทั้งนี้ ดีแทคมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ งที่ได้โอกาสร่วมมือกับทาง ทีโอที เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ดิจิทั ลนายลาร์ส กล่าว

            จากการร่วมงานเตรียมการจัดทำร่ างสัญญากับกลุ่มบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต มาเป็นระยะเวลาหนึ่งนั้น ทำให้ ทีโอที รู้สึกยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่ วมกับกลุ่มบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต ซึ่งมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ในการผลักดันประเทศสู่ดิจิทัล และยกระดับศักยภาพของสังคมไทย ด้วยความร่วมมือนี้ นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์ร่ วมกันในเชิงธุรกิจทั้งกับ ทีโอที และกลุ่มบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต แล้ว ทีโอที มั่นใจว่า ด้วยศักยภาพขององค์กรที่มีอยู่ ในปัจจุบันจะสามารถเป็นหน่ วยงานหนึ่งในการดำเนิ นการตามแนวนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล ในเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้ นฐานดิจิทัลที่ทันสมั ยของประเทศทั้งโครงข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนที่ และโครงข่ายบรอดแบนด์ไร้ สายประจำที่ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาโอกาสใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจให้กับทุกภาคส่วน และในท้ายที่สุดนี้ ทีโอที และกลุ่มบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จะสามารถร่วมมือกันพั ฒนาและนำเสนอบริการต่อยอดธุรกิ จรูปแบบใหม่ด้วยนวัตกรรมที่ ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตดิจิทัล เพิ่มศักยภาพในการดำเนินภารกิ จประจำวันให้ทั้งกับภาคประชาชน หน่วยงานของรัฐ และผู้ประกอบการเอกชนทั่วไป ส่งผลก่อให้เกิดประโยชน์ มากมายต่อประเทศชาติในภาพรวม

โครงข่าย 4G LTE-TDD บนคลื่น 2300 MHz จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุ ดของการใช้งานทรัพยากรคลื่ นความถี่ด้วยเทคโนโลยี Time Division Duplex (TDD) ในทางเทคนิค TDD คือการใช้งานคลื่นความถี่แบนด์ เดียวทั้งรับและส่งข้อมู ลในเวลาเดียวกัน จึงทำให้เพิ่มศักยภาพการรองรั บรูปแบบการใช้งานดาต้าได้เป็ นอย่างดี ทั้งนี้ จากการรายงานของสมาคมจีเอสเอ็ม หรือ GSMA Intelligence การขยายโครงข่าย LTE-TDD ของผู้ประกอบการทั่วโลกจะเพิ่ มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยคาดว่า TDD จะมีสัดส่วนทั่วโลกถึง 22% ในปี พ.ศ. 2563

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image