“บิ๊กสิน” นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2651 ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 24 เมษายน โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคมฯคนใหม่ แทนนายสินธุที่จะวางมือไป
สรุปงบดุลประจำปี 2560 รายได้ 50,801,301.45 บาท รายจ่าย 42,409439.02 บาท รายได้มากกว่ารายจ่าย 8,391,862.43 บาท
นายฐาปบุตร ชมเสวี อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขันและพัฒนาบุคลากร กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยันจากการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ในเรื่องการบริหารจัดการอคาเดมีจะได้รับงบประมาณหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะเป็นการสร้างนักกีฬาระดับเยาวชนมาเสริมในอนาคต
นายสินธุกล่าวว่า อคาเดมีบิลเลียดและสนุกเกอร์ตั้งมานานแล้ว มีนักกีฬาไทย 10 คน และต่างชาติ 4 คน ที่อยู่ในอคาเดมี ที่ต้องให้โอกาสต่างชาติขึ้นมา เพราะอยากให้ไทยเป็นศูนย์กลางของวงการสอยคิวเอเชีย นักสนุกเกอร์อาชีพไทยที่โลดแล่นในวงการสอยคิวโลกทุกวันนี้ก็มาจากอคาเดมีทั้งสิ้น ตอนนี้กีฬาสนุกเกอร์ไทยยังติดพระราชบัญญัติการพนัน เยาวชนไม่สามารถฝึกซ้อมได้ด้วยตัวเอง นอกจากซ้อมกับอคาเดมี จึงอยากฝากให้ กกท. พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง
เข้าถึงวาระการเลือกตั้ง มีการเสนอชื่อ “เฮียฮง” นายสุนทร จารุมนต์ ที่ปรึกษาสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ ลงชิงตำแหน่งเพียงคนเดียว และได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 15 สโมสร คณะกรรมการบริหาร 13 คน ให้เป็นนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ คนใหม่อย่างเป็นเอกฉันท์ ดำรงตำแหน่ง 4 ปี ระหว่างปี 2561-2565
หลังการเลือกตั้ง “ลิเดีย” ศรัณย์รัชต์ ดีน นักร้องดังได้ร้องเพลงแสดงความยินดีกับนายสุนทร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ 2 เพลง คือ เพลงลาวดวงเดือน ที่ใช้ในการประกวดรายการเดอะ แมสก์ ซิงเกอร์ส และเพลงเพียงสบตา เพลงประกอบละคร “บุพเพสันนิวาส”
นายสินธุกล่าวว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารทุกคนที่ร่วมทำงานกันมา ตอนนี้ยังมีความอยากทำงาน แต่ร่างกายไม่เอื้อแล้ว เพราะไม่สามารถเดินทางไปสร้างความสัมพันธ์กับต่างชาติและไปดูของดีของชาติอื่นๆ เพื่อนำกลับมาพัฒนาวงการสอยคิวไทย ฝากถึงนายกสมาคมฯอื่นๆ ที่อายุมากแล้ว และไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ควรวางมือให้คนที่มีศักยภาพมาสานงานต่อ เพื่อความเจริญของวงการกีฬาไทย
ด้านนายสุนทรกล่าวว่า ขอขอบคุณที่กรรมการและสมาชิกทุกคนที่ให้การสนับสนุน และขอบคุณนายสินธุที่ให้รับตำแหน่งต่อ ขอสัญญาว่าจะสานต่อชื่อเสียงและความสำเร็จให้สมาคมกีฬาบิลเลียดฯ ต่อไป ส่วนกรรมการบริหารชุดเก่าทุกคนจะยังคงทำงานต่อไปในวาระของตน เพราะทำงานร่วมกันมาได้อย่างดีโดยตลอด
“ผมจะสร้างนักกีฬาไปสู่ระดับโลกให้มากที่สุด ดึงการแข่งขันระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยในระยะอันใกล้นี้ โดยเฉพาะสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก(เวิลด์คัพ) ซึ่งเป็นรายการชิงถ้วยพระราชทาน ในหลวง ร.9 ให้กลับมาแข่ในไทยอีกครั้ง และหาสวัสดิการให้นักกีฬาที่เล่นอยู่และเลิกเล่นไปแล้ว” เฮียฮงกล่าว
